ผลกระทบจากข่าวปลอมที่เกิดขึ้นในโลกจริงไม่ได้มีเพียงสหรัฐฯ เมียนมาร์ แต่ยังเกิดขึ้นแล้วที่ศรีลังกา เมื่อรัฐบาลศรีลังกาสั่งให้ผู้บริการเครือข่ายปิดกั้นการเข้าถึง Facebook, Instagram และ WhatsApp เพื่อสกัดกั้นการลุกฮือของประชาชนที่พยายามโจมตีชาวมุสลิมชนกลุ่มน้อย ด้วยเหตุผลโซเชียลมีเดียมีข่าวปลอมแพร่เยอะเกินไป
เหตุการณ์ลุกฮือเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา โดยประชาชนเข้าโจมตีสถานที่ทางธุรกิจและบ้านเรือนของชาวมุสลิมในกรุงโคลอมโบ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จนรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้าน Facebook ตอบว่า กำลังอยู่ระหว่างพูดคุยกับรัฐบาลศรีลังกา เพื่อดำเนินการลบเนื้อหารุนแรง
ด้านโฆษกรัฐบาล Harindra B. Dassanayake ระบุว่าถ้าสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ Facebook จะกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ Facebook ก็ระงับบัญชีของพระที่เป็นแกนนำโจมตีชาวโรฮิงญาในเมียนมาร์ไปแล้ว และในศรีลังกาเองก็มีหลายฝ่ายวิจารณ์มานานว่า Facebook ในศรีลังกาก็ถูกใช้เป็นพื้นที่แพร่ข่าวปลอม และข้อความเกลียดชังต่อชาวมุสลิมเช่นกัน
Freedom House องค์กรสิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ เคยระบุปัญหาในศรีลังกาว่า ความเกลียดชังชาวมุสลิมที่แพร่กระจายบนโซเชียลมีเดียเริ่มขึ้นในปี 2013 และมากขึ้นเรื่อยๆ
ที่มา - New York Times