KBTG บริษัทเทคโนโลยีของธนาคารกสิกรไทย เผยวิสัยทัศน์ด้านธนาคารดิจิทัล เปิดตัว "เกด" KADE (K PLUS AI-Driven Experience) นวัตกรรมของการให้บริการบนแพลตฟอร์ม K PLUS ที่ใช้พลัง AI เป็นตัวขับเคลื่อน
นายสมคิด จิรานันตรัตน์ ประธาน KBTG ระบุว่าตอนนี้ธนาคารกสิกรไทยมีธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลเกิน 80% ของธุรกรรมทั้งหมดแล้ว แอพ K PLUS มีผู้ใช้มากกว่า 8 ล้านคน แต่ก็ยังมีคนไทยอีกมากที่เข้าไม่ถึงบริการธนาคารในแบบดั้งเดิม หรือที่เรียกว่า unbanked ซึ่งเป็นเป้าหมายของธนาคารกสิกรไทยที่จะขยายไปยังคนกลุ่มนี้ ตัวอย่างบริการที่เปิดตัวไปแล้วคือ K PLUS Beacon สำหรับผู้บกพร่องทางการเห็น
ส่วน KADE เป็นพัฒนาการอีกขั้นของ K PLUS ภายใต้แนวคิด From Digital to Intelligence คือถัดจากการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล ก็จะเข้าสู่ความฉลาดของ AI เป็นตัวขับเคลื่อน โดย KADE จะคอยทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่อเรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้าคนนั้นๆ และนำเสนอประสบการณ์ที่ตรงใจกับลูกค้ามากที่สุด เจาะความต้องการลูกค้าเป็นรายคน (segment of one) ไม่ใช่การแยกเซกเมนต์ลูกค้าตามกลุ่มประชากรอีกต่อไป
KADE ไม่ใช่ชื่อบริการ แต่เป็นวิสัยทัศน์ด้าน AI ที่ประกอบด้วยแนวคิด 3 ส่วนคือ
KADE ยังไม่เริ่มเปิดให้ใช้งานในตอนนี้ แต่ทีมพัฒนาของ K PLUS กำลังเตรียมงานกันอย่างเต็มที่ และน่าจะได้เห็นบริการชุดแรกภายใต้วิสัยทัศน์ KADE ภายในปี 2018
นายสมคิดยังบอกว่า KADE จะเป็นจิ๊กซอส่วนสำคัญที่จะทำให้ธนาคารกสิกรไทย กลายเป็น Digital Banking เต็มรูปแบบในอีก 3 ปีข้างหน้า
ตัวอย่างบริการที่ขับเคลื่อนด้วย KADE ที่ได้เริ่มให้บริการแล้วคือ machine lending หรือการนำเสนอเงินกู้ขนาดเล็ก (micro finance) ให้อัตโนมัติ โดยใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงจากพฤติกรรมทางการเงินของลูกค้าแต่ละราย จากนั้นแอพ K PLUS จะขึ้นข้อความแจ้งเตือนลูกค้าว่าต้องการกู้หรือไม่ ถ้าลูกค้าต้องการก็จะได้เงินในเวลาอันรวดเร็ว
ธนาคารกสิกรไทยทดลองให้บริการ machine lending มาตั้งแต่ปลายปี 2560 และพบว่ามีลูกค้าตอบรับบริการในอัตราที่เพิ่มขึ้น 300% เมื่อเทียบกับวิธีการแบบเดิม
KBTG ยังเปิดตัว 3 ขุนพล ทีมงานแกนหลักที่อยู่เบื้องหลัง KADE ที่รับผิดชอบงานทั้ง 3 ด้านข้างต้น (จากภาพ ซ้ายไปขวา)