จากมูลเหตุเรื่องข้อมูลผู้ใช้ Facebook ถูกนำไปใช้เพื่อการหาเสียง จนทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติหันมาเพ่งเล็งและเริ่มผลักดันให้มีการตรวจสอบ ตอนนี้ไม่เพียงแต่จะเริ่มมีกระแส #DeleteFacebook เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้าน Facebook บนสังคมออนไลน์เท่านั้น ทางด้านมูลค่าขององค์กรก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันเมื่อดัชนีหุ้นของ Facebook ลดลงทันที 6.8% เมื่อวานนี้
จากมูลค่าหุ้นที่ลดลงไปอยู่ที่ 172.56 ดอลลาร์ เทียบได้กับเงิน 40 พันล้านดอลลาร์ที่หดหายไปภายในวันเดียวหลังข่าวฉาวถูกเผยแพร่ออกมาในช่วงสุดสัปดาห์ ถือเป็นเหตุการณ์หุ้นตกที่หนักที่สุดของ Facebook นับตั้งแต่ปี 2014
เรื่องนี้ส่งผลต่อมูลค่าสินทรัพย์ของ Mark Zuckerberg นายใหญ่แห่ง Facebook ด้วย โดยมีการประเมินว่ามูลค่าของซีอีโอรายนี้ลดหายไป 4.9 พันล้านดอลลาร์ ส่งให้เขาตกลงไปอยู่ในอันดับ 5 ของการจัดอันดับมหาเศรษฐีของ Bloomberg ตามหลัง Jeff Bezos, Bill Gates, Warren Buffett และ Amancio Ortega ตามลำดับ
ผลพวงจากการเปิดเผยเรื่องข้อมูลผู้ใช้ Facebbok ถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการเมือง ไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อ Facebook เองเท่านั้น เพราะเหตุจากหุ้น Facebook ราคาตก เลยพลอยทำให้หุ้นของ Alphabet, Amazon และ Apple ร่วงด้วย โดยมูลค่าลดลง 3%, 1.7% และ 1.5% ตามลำดับ ฉุดให้ภาพรวมดัชนีกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของ S&P 500 ลดลง 2.1% ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์หุ้นตกระดับประวัติการณ์ของกลุ่มบริษัทนี้
ที่มา - CNN Money, New York Times, Bloomberg