Huawei เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงประจำต้นปี 2018 คือ Huawei P20 และ P20 Pro โดยใช้ดีไซน์จอแหว่งแบบเดียวกับ iPhone X และมีกล้องหลัง 3 ตัว ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้
สเปกเครื่องเป็นชิป Kirin 970 ตัวเดียวกับใน Mate 10 ที่มีชิปประมวลผล AI แยกเฉพาะ รองรับการประมวลผล AI บนแอพหลายค่ายทั้ง Google, Microsoft, Amazon และรวมถึงแอพแต่งภาพชื่อดัง Prisma ด้วย
สีตัวเครื่องของ Huawei P20 ใช้การไล่สีแบบเหลือบ gradient ที่ดูแปลกตา มีทั้งหมด 4 สีให้เลือก วัสดุเป็นโลหะ
Huawei P20 ใช้หน้าจอขนาด 5.8" รองรับสีแบบ RGBW ความสว่าง 770 nits สว่างกว่า iPhone X ถึง 23% แต่ก็ยังประหยัดพลังงาน ส่วนของจอที่แหว่งนั้นเล็กกว่าของ iPhone X ช่วยให้แสดงผลไอคอนแจ้งเตือนได้มากกว่า
ส่วน Huawei P20 Pro ใช้หน้าจอ 6.1" อัตราคอนทราสต์ 1:1,000,000
จุดเด่นของ Huawei P20/P20 Pro ที่ต่างไปจากมือถือคู่แข่งคือตัวสแกนลายนิ้วมือด้านหน้าที่ขอบจอด้านล่าง และสามารถใช้ปุ่มสแกนลายนิ้วมือเป็น gesture แทนปุ่ม Home/Back/Recent ของ Android เพื่อลดพื้นที่แสดงผลบนหน้าจอได้ด้วย
Huawei P20 ยังใช้แบตเตอรี่มาเยอะกว่าคู่แข่ง นั่นคือ 3400 mAh ในตัวเครื่องที่หนาใกล้เคียงกัน ส่วน P20 Pro ให้แบตเตอรี่ 4000 mAh เยอะกว่า Galaxy S9+ ที่เป็นคู่แข่งในหน้าจอระดับเดียวกัน, มีฟีเจอร์ชาร์จเร็ว SuperCharge ที่ชาร์จเร็วกว่าและปลอดภัยกว่า
กล้องของ P20/P20 Pro ยังร่วมพัฒนากับ Leica เช่นเดิม กล้องของ P20 ใช้พิกเซลขนาด 1.55um ที่ใหญ่กว่าคู่แข่งทั้ง iPhone X/Galaxy S9 รับแสงได้มากกว่า ถ่ายในที่มืดได้ดีกว่า
ในแง่ของซอฟต์แวร์ Huawei ระบุว่าใช้พลัง AI ช่วยประมวลผลภาพถ่ายให้ดียิ่งขึ้น ส่งผล P20 ได้คะแนนรีวิวของ DxOMark คะแนนรวม 102 คะแนน ภาพนิ่ง 107 คะแนน วิดีโอ 94 คะแนน (Galaxy S9+ ได้ 99/104/91 คะแนนตามลำดับ)
ส่วน P20 Pro ขยับไปอีกขั้นด้วยเลนส์ 3 ตัว ประกอบด้วย
นอกจากนี้ กล้องของ P20 Pro ยังรองรับการรับแสงได้ถึง ISO 102400 ระดับเดียวกับ Canon 5D Mark IV และทิ้งห่างกล้องคู่แข่งไปไกล (ISO 6400)
ฟีเจอร์อื่นๆ มีเรื่องการตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนไหว, zero shutter lag ถ่ายภาพได้ทันท่วงที, เปิดกล้องภายใน 0.3 วินาทีนับจากปลุกเครื่องให้ตื่นจากหลับ, 960 fps Super Slow Motion, AI Assisted Composition ใช้ AI ช่วยจัดเฟรมของภาพให้เหมาะสม, ใช้ AI ผสมผสาน EIS/OIS ช่วยลดการสั่นของกล้องชนิดว่าไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องอีก โดยเรียกมันว่า AIS! (AI Image Stabilization)
ตัวอย่างภาพถ่ายของ Huawei P20 Pro กับ Galaxy S9+ ในตอนกลางคืน ตอนนำเสนอ Richard Yu ซีอีโอของ Huawei บอกว่าตัด iPhone X ออกไปเลยเพราะมองไม่เห็นอะไรใดๆ
P20 Pro ได้คะแนนรีวิวจาก DxOMark สูงขึ้นกว่า P20 เข้าไปอีก โดยได้คะแนนรวม 109 คะแนน, คะแนนภาพนิ่ง 114 คะแนน, วิดีโอ 98 คะแนน ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้คะแนนสูงที่สุดในตอนนี้
กล้องหน้าของ P20/P20 Pro ยังมีความละเอียดถึง 24MP เรียกได้ว่าเน้นการถ่ายเซลฟี่แบบสุดๆ ไปเลย ถือว่าเป็นกล้องหน้าที่ให้ความละเอียดสูงที่สุดในอุตสาหกรรมมือถือ ณ เวลานี้
ในแง่ฟีเจอร์ก็มีฟีเจอร์ 3D Portrait Lighting ลักษณะเดียวกับ iPhone X
ด้านซอฟต์แวร์ Huawei ร่วมมือกับ Google รองรับฟีเจอร์ด้าน AI หลายอย่างของ Android, สามารถใช้ Google Assistant สั่งถ่ายภาพโดยได้ฟีเจอร์กล้องของ P20 เป็นการเฉพาะ (เช่น ถ่ายภาพขาวดำ) รวมถึงการเป็นมือถือรุ่นแรกๆ ที่รองรับ ARCore ด้วย