ตำรวจเมืองชิงเต่าในมณฑลซานตงของประเทศจีนได้ประกาศให้ร้านค้าและร้านอาหารทุกแห่งที่ให้บริการ Wi-Fi จะต้องเปลี่ยนเราท์เตอร์ให้เป็นแบบที่รัฐบาลอนุมัติ โดยหากไม่ทำตามจะมีโทษปรับสูงสุดถึง 1 แสนหยวน โดยอ้างว่าการเปลี่ยนเราท์เตอร์นี้เพื่อเป็นการปรับปรุงการจัดการความปลอดภัยของอินเทอร์เน็ตในเมือง Qingdao
Abacus รายงานว่า เราท์เตอร์แบรนด์ที่รัฐบาลรองรับนั้นคือ Bihu (BHU) ซึ่งทางรัฐบาลท้องถิ่นจะขายเราท์เตอร์ให้กับผู้ใช้ในราคา 100 หยวน หรือจ่ายตามจริง 400 หยวน ขึ้นกับว่าร้านค้าอยู่ที่ไหนในชิงเต่า โดยหากไม่ทำตามนั้นจะคิดค่าปรับ 8 เฟิน หรือ 800 หยวนต่อคนที่เชื่อมต่อเราท์เตอร์ต่อวัน แก้ไข: หากร้านทำตามจะได้รับเงินคืน 8 เฟินต่อหนึ่งคนที่เชื่อมต่อเราท์เตอร์ในทุก ๆ วัน
ทั้งนี้นอกจากชิงเต่าแล้ว ในรายงานข่าวบอกว่าเมืองใหญ่อย่างปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้ก็ยังไม่มีกฎดังกล่าวแต่อย่างใด โดยชิงเต่านี้เป็นเมืองของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์อย่าง Hisense และผู้ผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือนอย่าง Haier แต่ว่าเราท์เตอร์ BHU ที่ทางชิงเต่ากำหนดให้ใช้นั้นเคยมีรายงานในปี 2016 ว่ามีช่องโหว่สำคัญจำนวนมาก สามารถเข้าถึงระดับรูทได้ ซึ่งร้ายแรงระดับที่สามารถดักฟังหรือรีไดเรกให้ไปในที่ที่กำหนดได้ รวมถึงตัวเราท์เตอร์ยังอนุญาตให้สามารถลบไฟล์สำคัญที่ทำให้ตัวเครื่องหยุดทำงานหรือ brick ได้เลย