Los Angeles เป็นเมืองใหญ่ในสหรัฐอเมริกาและมีประวัติศาสตร์การก่อตัวของชุมชนเมืองมานานหลายร้อยปี ซึ่ง Baxter Street ก็เป็นหนึ่งในถนนเส้นเก่าแก่ที่ตัดขึ้นใช้งานครั้งแรกตั้งแต่ปี 1872 แม้จะผ่านมานานกว่า 100 ปีแล้ว แต่ถนนยาวเกือบ 1 กิโลเมตรเส้นนี้ก็ยังคงใช้งานได้ มีผู้คนตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่เรียงราย
แต่ความพิเศษของ Baxter Street ไม่ใช่อายุหรือประวัติศาสตร์ของมัน หากแต่เป็นความชัน ด้วยความที่มันถูกก่อสร้างเริ่มใช้งานเมื่อนานมาแล้ว ในยุคสมัยที่กฎหมายด้านวิศวกรรมการก่อสร้างยังไม่บังคับใช้เข้มงวดเท่าทุกวันนี้ Baxter Street จึงถูกตัดใช้งานผ่านเนินชัน 2 ลูก ซึ่งส่วนที่ชันที่สุดของถนนเส้นนี้ชันถึง 32% หรือก็คือ 17.7 องศา ชันระดับที่ว่าเมื่อขับรถเคลื่อนไปอยู่ตรงยอดเนินแล้ว ผู้ขับไม่มีทางมองเห็นถนนที่อยู่ถัดจากฝากระโปรงหน้ารถได้เลย (ลองเข้าไปดูภาพจาก Google Street View กันได้)
ถ้านึกไม่ออกว่าความชันระดับนี้อันตรายแค่ไหน ขอให้อิงจากมาตรฐานชั้นทางของกรมทางหลวง แม้แต่ทางขนาดเล็กสุดยังยอมให้มีความชันได้ไม่เกิน 12% หรือ 6.84 องศาเท่านั้น หรืออย่างทางลาดตามอาคารจอดรถต่างๆ ที่ว่าชันนักหนา ทางกฎหมายก็ยังออกแบบให้ชันได้ไม่เกิน 15% หรือ 8.53 องศาเท่านั้น ถือว่าความชัน 32% ของ Baxter Street นั้นมากจริงๆ เป็นรอง Baldwin Street ถนนที่ชันที่สุดในโลกที่มีบ้านเรือนผู้คนซึ่งชัน 35% อยู่แค่นิดเดียว
ปัญหาคือผู้คนที่พักอาศัยอยู่บน Baxter Street เขาก็ใช้ชีวิตกันมาได้ตามปกติ กระทั่งมาถึงยุคที่ใครๆ ก็ใช้แอพนำทาง และสารพัดบริการรถรับจ้างโดยสารผุดกันขึ้นมามากมาย (ซึ่งหลายคนก็ไม่ได้ชำนาญทางมากนัก อาศัยความเชื่อใจที่มีให้แอพนำทาง) ซึ่งหนึ่งในแอพที่ผู้คนใน Los Angeles นิยมใช้อย่าง Waze ก็ดันแนะนำให้หลายคนขับมาตามถนน Baxter Street นี้เสียด้วย
จากปริมาณรถที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับสภาพถนนที่สุดโต่ง ทำให้รถหลายคันประสบอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีฝนตกลงมาแล้วทำให้ถนนแสนชันนี้โคตรลื่นเข้าไปอีก
เมื่อ 2-3 วันก่อน Jason Luther หนึ่งในผู้อยู่อาศัยบนถนน Baxter Street เล่าว่ามีรถเสียหลักพุ่งเข้ามายังพื้นที่สวนของบ้านเขา ถลาพุ่งชนรั้วบ้านอีก 2 ชั้น ก่อนจะหยุดนิ่งหงายหลังคาอยู่ตรงทางเข้าบ้าน ส่วน Robbie Adams ผู้อยู่อาศัยในละแวกเดียวกันเล่าว่าเขาเห็นอุบัติเหตุรถยนต์ 5-6 ครั้ง ก่อนหน้านี้รั้วบ้านเขาก็เพิ่งจะพังเพราะโดนรถชน 2 ครั้ง และอีกครั้งหนึ่งรถยนต์ของภรรยาเขาจอดอยู่ในพื้นที่บ้านดีๆ ก็โดนรถเสียหลักพุ่งเข้ามาชน
Adams บอกว่าพวกชาวบ้านได้ร้องเรียนเรื่องนี้ไปยังหน่วยงานรัฐ และแจ้ง Waze เพื่อขอให้ลบถนนนี้ออกไปจากระบบ แต่ Waze ตอบกลับว่าการแก้ไขจะต้องแก้อัลกอริทึมแบบผิดแผกแปลกออกไปจึงดำเนินการให้ไม่ได้
Ars Tecnica ได้ติดต่อไปยัง Google บริษัทแม่ของ Waze และได้รับอีเมลตอบกลับใจความดังนี้
Google Maps ได้สร้างแบบจำลองที่เปลี่ยนโลกได้ โดยอิงจากข้อเท็จจริงพื้นฐาน นี่หมายความว่าแผนที่ของเราจะสะท้อนมาตรการที่หน่วยงานท้องถิ่นได้ลงมือทำจริงเพื่อปกป้องประชาชนของพวกเขา-ตัวอย่างเช่น, การปิดถนนที่สูงชัน, หรือการออกกฎบังคับเลี้ยวเปลี่ยนเส้นทาง หากหน่วยงานท้องถิ่นตัดสินใจที่จะจำกัดการใช้งาน Baxter Street, มาตรการนั้นก็จะถูกนำมาใช้ในการประเมินและแนะนำเส้นทางการขับรถให้กับผู้คนในพื้นที่ Los Angeles
ถึงตรงนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าทำไม Google ถึงเลือกแก้ไขข้อมูลโดยการลบหรือปิดถนนเส้นนี้ออกจากระบบแนะนำเส้นทางเองไม่ได้ ดูท่าแล้วประชาชนบน Baxter Street คงต้องหันไปถามกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อออกมาตรการควบคุมการใช้ถนนเส้นนี้เป็นการด่วน
ที่มา - Ars Technica