ญี่ปุ่นประกาศข่าวการค้นพบแหล่งแร่หายากปริมาณมหาศาลใต้ทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยแร่เหล่านี้สามารถนำมาใช้งานกับอุตสาหกรรมได้หลากหลายประเภทรวมทั้งอุตสาหกรรมไอทีด้วย
จากการสำรวจกินพื้นที่กว่า 2,500 ตารางกิโลเมตร ทีมนักสำรวจซึ่งประกอบไปด้วยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของญี่ปุ่น ร่วมด้วยภาคเอกชน และเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ได้ค้นพบแหล่งแร่ในชั้นโคลนใต้ทะเลบริเวณใกล้กับเกาะ Minamitori โดยประเมินว่าจะมีแร่รวมกันประมาณ 16 ล้านตัน โดยในนั้นเป็น REO (Rare Earth Oxide) ซึ่งหมายถึงแร่ออกไซด์ของธาตุหายากถึง 1.2 ล้านตัน
ธาตุหายากที่ว่านี้ คือธาตุ 17 ชนิดที่พบได้ยากในธรรมชาติ อันได้แก่ สแกนเดียม, อิตเทรียม, แลนทานัม, ซีเรียม, เพรซีโอดิเมียม, นีโอดิเมียม, โพรมีเทียม, ซาแมเรียม, ยูโรเพียม, แกโดลิเนียม, เทอร์เบียม, ดิสโพรเซียม, โฮลเมียม, เออร์เบียม, ทูเลียม, อิตเตอร์เบียม และลูทีเชียม ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย อาทิ ใช้ทำสารเรืองแสง, ใช้ในการผลิตแม่เหล็ก, ใช้ในการสร้างเลเซอร์, ใช้เพื่อผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน เป็นต้น
ด้วยความที่นำไปใช้ประโยชน์ได้มาก แต่กลับหาได้ยากนัก ทำให้แร่เหล่านี้มีมูลค่าสูง ทำให้ประเทศจีนในฐานะเจ้าของแหล่งแร่สำคัญที่มีอยู่เดิมมีอำนาจในการต่อรองทางการค้ากับญี่ปุ่น และมีอิทธิพลต่อกลไกราคาสินค้าอุตสาหกรรมหลายประเภท
ทีมวิจัยประเมินว่าด้วยแร่ที่มากถึง 16 ล้านตัน นั่นไม่เพียงจะทำให้ญี่ปุ่นมีแร่เหลือเฟือสำหรับภาคอุตสาหกรรมของตนเองไปอีกนานเท่านั้น หากทว่านี่เรียกได้ว่าเป็นปริมาณแร่พอที่จะป้อนให้กับภาคการผลิตต่างๆ ทั่วโลกไปได้อีกนานหลายร้อยปี แทบจะเรียกได้ว่า "ใช้ไม่อั้น"
ขั้นตอนต่อไป นักวิจัยสำรวจจะคิดค้นหากรรมวิธีที่จะขุดเอาแร่จากใต้ทะเลนี้ขึ้นมาใช้ประโยชน์จริงให้ได้ โดยจะต้องหาวิธีการแยกแร่ออกจากโคลนให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ที่มา - The Japan Times