รวมฟีเจอร์ใหม่ทั้งหมดของ Android P ที่ประกาศในงาน Google I/O 2018

by mk
9 May 2018 - 07:16

โพสต์นี้เป็นการรวมของใหม่ใน Android P ทั้งหมด ที่ประกาศไว้ในงาน Google I/O 2018 นะครับ (หลายอันเขียนเป็นข่าวไปแล้วแต่นำมารวมไว้เป็นบทความเดียวอีกทีหนึ่ง)

ฟีเจอร์ใหม่ของ Android P ถูกแบ่งออกเป็น 3 หมวดคือ Intelligence, Simplicity และ Digital Wellbeing มีรายละเอียดดังนี้

Intelligence ความฉลาดที่มากขึ้นด้วย AI

กูเกิลมีบริษัทลูกสุดเทพอย่าง DeepMind ผู้สร้าง AlphaGo เพื่อไม่ให้เสียของก็นำ AI ของ DeepMind มาใช้งานให้ Android ทำงานได้ดีขึ้น

เริ่มจาก Adaptive Battery ช่วยวิเคราะห์การทำงานของแอพที่ผู้ใช้แต่ละคนใช้งาน และจัดกลุ่มแอพแต่ละตัวตามพฤติกรรมการใช้งาน (เช่น แอพกลุ่ม Active ใช้บ่อยหรือ Rare ที่นานๆ ใช้ที) ช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้สูงสุด 30% จากเดิม

ฟีเจอร์ลักษณะเดียวกันถูกนำมาใช้กับความสว่างของหน้าจอ Adaptive Brightness ด้วย เพื่อลดปัญหาจอสว่างเกินไปหรือมืดเกินไปในบางสถานการณ์

ฟีเจอร์ต่อมาคือ App Actions ที่ตัว launcher จะคาดเดาว่าเราจะทำอะไรต่อไป และนำมาเสนอให้เราเห็นเลย (รายละเอียด)

Slices แนวคิดใหม่ของแอพที่ไม่ต้องถูกเรียกใช้งานทั้งตัว แต่หยิบมาใช้เพียงบางส่วน และใช้ร่วมกับ Google Assistant ได้ดี (รายละเอียด)

ML Kit ไม่ใช่ฟีเจอร์ของตัว OS โดยตรง แต่นักพัฒนาสามารถเรียกใช้ฟีเจอร์ AI ของกูเกิลกับแอพของตัวเองได้ (ถือเป็นบริการตัวหนึ่งของ Firebase - รายละเอียด)

ฟีเจอร์อื่นได้แก่ ระบบแจ้งเตือนมี Smart reply ตอบกลับแบบรวดเร็วเหมือนกับในแอพ Gmail, Text Classifier เรียนรู้ว่าข้อความที่เลือกเป็นข้อมูลประเภทไหน เช่น วันที่ ที่อยู่

Simplicity ปรับหน้าตาของ Android ใหม่ให้เรียบง่ายขึ้น

ฟีเจอร์ในหมวดนี้คือเรื่องของ UI/UX ใน Android P ที่เปลี่ยนไปจากเดิมหลายจุด การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ Navigation ระบบการนำทางของ OS แบบใหม่ที่เน้นการใช้ gesture แทนการกดปุ่ม ทำให้เหลือปุ่ม Home ปุ่มเดียวบนหน้าจอ (และปุ่ม Back ในบางกรณี)

การเปลี่ยนแปลง UI ยังมีอีกหลายจุดย่อยๆ เช่น เพิ่มปุ่ม Rotate หมุนหน้าจอเมื่อเอียงเครื่อง, ปรับหน้าตาของปุ่มปรับระดับเสียง, เพิ่มฟีเจอร์ให้กับการจับภาพหน้าจอ เป็นต้น

Digital Wellbeing เน้นคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดอาการติดสมาร์ทโฟน

Digital Wellbeing เป็นธีมที่น่าสนใจและกูเกิลเน้นมากในปีนี้ ฟีเจอร์ในชุดนี้ได้แก่

  • Dashboard โชว์ระยะเวลาที่เราใช้งานสมาร์ทโฟน แยกเป็นรายแอพ รวมถึงสถิติข้อความเตือนที่ได้รับในแต่ละวัน
  • App Timer กำหนดระยะเวลาในการใช้แอพแต่ละตัวได้ เหมาะสำหรับการใช้งานของเด็กๆ
  • Do Not Disturb โหมดไร้การรบกวนใดๆ ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด รวมถึงไม่แสดงขึ้นมาเตือนบนหน้าจอด้วย แต่ก็ยังอนุญาตให้คนสำคัญโทรมาได้เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน
  • Wind Down โหมดก่อนนอน จะลดสีของหน้าจอลงเหลือเป็นขาวดำ และเปิดการทำงานของ Night Light กับ Do Not Disturb เมื่อถึงเวลาเข้านอน เพื่อให้รู้ตัวว่าได้เวลานอนแล้ว

ฟีเจอร์สำหรับนักพัฒนา

Background restrictions จำกัดการทำงานของแอพที่รันแบบเบื้องหลัง เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ ระบบจะตรวจจับแอพที่กินแบตเยอะๆ และผู้ใช้สามารถสั่งให้รันแบบ restriction ได้

Dynamics Processing Effect สำหรับการประมวลผลเสียงให้ออกมาคุณภาพดีกว่าเดิม

Biometric prompt API ตัวใหม่สำหรับยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลชีวภาพ ใช้แทน FingerprintDialog API ตัวเดิม

ที่มา - Android Blog, Android Developers Blog

Blognone Jobs Premium