Red Hat เผยแผนการในอนาคตของ CoreOS หลังซื้อกิจการมาในเดือนมกราคม 2018 ด้วยมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์
ปัญหาของการซื้อกิจการครั้งนี้คือ CoreOS มีผลิตภัณฑ์หลายตัวที่ทับซ้อนกับ OpenShift เพราะเป็นผลิตภัณฑ์สาย Docker/Kubernetes เหมือนกัน ทำให้ต้องเลือกว่าตัวไหนจะอยู่ตัวไหนจะเลิกทำ
- Tectonic หรือ Kubernetes Enterprise ของฝั่ง CoreOS จะหายไป และถูกยุบรวมเข้ากับ OpenShift Container Platform (Kubernetes Enterprise ฝั่ง Red Hat) โดยฟีเจอร์ด้านการอัพเดตอัตโนมัติของ Tectonic จะถูกเพิ่มเข้ามาใน OpenShift
- Operator Framework เปรียบได้กับส่วนขยาย Kubernetes API ให้จัดการเจาะจงเป็นรายแอพพลิเคชัน จะถูกนำไปใช้ต่อใน OpenShift Container Platform (ปัจจุบันฟีเจอร์นี้กลายเป็นโครงการโอเพนซอร์สแล้ว)
- Container Linux หรือ CoreOS Linux เดิม ซึ่งเป็นลินุกซ์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Chrome OS เรื่องการอัพเดตอัตโนมัติ มีความทับซ้อนกับ Red Hat Atomic Host ผลคือ Container Linux จะได้ไปต่อ (Atomic Host จะเลิกทำ) แต่จะเปลี่ยนชื่อกลับเป็น Red Hat CoreOS และกลายเป็นระบบปฏิบัติการหลักสำหรับแพลตฟอร์ม OpenShift ทั้งหมด (ลูกค้ายังสามารถเลือกรัน RHEL ได้ถ้าต้องการ)
- Quay ฟีเจอร์ด้านการจัดการ registry ของคอนเทนเนอร์ จะถูกนำไปใช้ใน OpenShift ต่อ แม้ว่า OpenShift มีฟีเจอร์ลักษณะเดียวกันอยู่แล้วก็ตาม แต่ในอนาคตก็มีแผนจะนำมารวมกัน
ที่มา - Red Hat