eMarketer ได้ออกผลสำรวจและวิเคราะห์การใช้งาน mobile payment ประจำปี 2017 ในสหรัฐฯ โดยพบว่าบริการจ่ายเงินที่มีผู้ใช้เยอะที่สุดคือ Starbucks ตามมาด้วย Apple Pay, Google Pay และ Samsung Pay ตามลำดับ
Starbucks ให้บริการจ่ายเงินผ่านแอพมาตั้งแต่ปี 2011 แล้ว ซึ่งนอกจากระบบการจ่ายเงินด้วยบาร์โค้ดของ Starbucks จะสะดวกและรวดเร็วแล้ว ในตัวแอพยังมีสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้พร้อมแสดงข้อมูลการใช้จ่าย รวมถึงจัดการยอดเงินคงเหลือในบัตรและ star rewards ในแอพก็สะดวกและรวดเร็วจึงทำให้เป็นที่นิยมมาก โดยในปี 2017 มีผู้ใช้งานกว่า 20.7 ล้านคนทั่วสหรัฐฯ
ส่วนผู้ให้บริการจ่ายเงินรายอื่นนั้นไม่สามารถให้สิทธิประโยชน์กับลูกค้าเหมือน Starbucks ได้ และยังมีประเด็นที่ผู้ค้าหลายรายยังไม่รองรับระบบจ่ายเงินแบบ tap-to-pay อย่าง Apple Pay หรือ Google Pay ซึ่งบริการที่มีผู้ใช้รองจาก Starbucks ก็คือ Apple Pay 19.9 ล้านคน, Google Pay 9.3 ล้านคน และ Samsung Pay 8.4 ล้านคน
eMarketer รายงานว่า ในปี 2017 ผู้ใช้สมาร์ทโฟนอายุ 14 ปีหรือมากกว่าคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 25% มีการใช้ mobile payment อย่างน้อยหนึ่งครั้งในทุก ๆ 6 เดือน และประมาณการว่าน่าจะเพิ่มเป็น 55 ล้านคนได้ภายในสิ้นปี 2018 ซึ่ง eMarketer ทำนายว่าในอนาคตบริการทั้ง 4 อาจมีส่วนแบ่งผู้ใช้ลดลงหรือคงตัว เนื่องจากจะมีการแข่งขันสูงขึ้น โดยเฉพาะจากผู้ค้าปลีกก็จะเริ่มทำแอพจ่ายเงินของตัวเองและให้ข้อเสนอดี ๆ เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลลูกค้าไว้
ข้อมูลของ eMarketer ที่นำมาใช้วิเคราะห์นี้เป็นกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์มือถืออายุ 14 ปีหรือมากกว่าที่มีการใช้ mobile payment ระยะใกล้อย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยข้อมูลนั้นเก็บจากบริษัทอื่นอย่างเช่น Forrester, Juniper Research และ Crone Consulting
ที่มา - TechCrunch
ภาพจาก Starbucks Newsroom