ตอบโจทย์ทุกงานพิมพ์ฉลากและแพ็คเกจ ด้วยเครื่องพิมพ์ฉลากจากเอปสัน

by advertorial
15 June 2018 - 06:20

ทุกวันนี้มีผู้ผลิตสินค้า OTOP ไปจนถึงกลุ่มผู้ประกอบการผลิตสินค้าหน้าใหม่ค่อนข้างเยอะ ส่วนหนึ่งก็จากการผลักดันของรัฐบาล สินค้าเหล่านี้หากทำแพ็คเกจจิ้งดีๆ จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มได้มาก

ปัญหาหลักของการพิมพ์แพ็คเกจจิ้งของผู้ประกอบการไปจนถึงโรงพิมพ์ขนาดใหญ่ คือ “ต้นทุนการพิมพ์” ทั้งในแง่จำนวนพิมพ์และการทำเพลท เทคโนโลยีการพิมพ์​ของเอปสันในกลุ่มเครื่องพิมพ์ฉลาก (Label) และ Packaging จึงออกมาตอบโจทย์ทั้งฝั่งผู้ประกอบการและโรงพิมพ์ ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมตั้งแต่งานพิมพ์ป้ายขนาดเล็กสำหรับสำนักงาน งานพิมพ์แพ็คเกจจิ้งระดับกลางสำหรับผู้ประกอบการ ไปจนถึงเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่สำหรับโรงพิมพ์

ไลน์สินค้าที่ตอบโจทย์ทุกงานพิมพ์

ไลน์สินค้าเครื่องพิมพ์ของเอปสัน ครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรมและกลุ่มเป้าหมาย โดยในกลุ่มเครื่องพิมพ์ Label และ Packaging ทางเอปสันมีการแบ่งไลน์สินค้าเอาไว้เป็น 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กลุ่มโรงพิมพ์ขนาดใหญ่หรือกลุ่มที่ต้องการแพ็คเกจจำนวนมาก, กลุ่มผู้ประกอบการที่มีจำนวนการพิมพ์ระดับหนึ่งและต้องการลดต้นทุนจากการไปจ้างพิมพ์ สุดท้ายคือกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องการงานพิมพ์ป้ายฉลากอุตสาหกรรมหรือฉลากสำหรับใช้เองในบ้านหรือสำนักงาน

ด้วยขนาดและโจทย์การพิมพ์ที่แตกต่างกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันในแง่ของเทคโนโลยีงานพิมพ์คือ ทั้งสามกลุ่มเป็นเครื่องพิมพ์ดิจิทัล ซึ่งมีข้อดีคือไม่ต้องทำเพลท ไม่ต้องเสียเวลาในกระบวนการเทสต์หรือรันงานต่างๆ หากอยากจะพิมพ์เมื่อไรก็พิมพ์ได้เลย สามารถตั้งค่าได้ง่ายๆ แม้คนที่ไม่คุ้นเคยกับระบบก็สามารถเรียนรู้ได้ในระยะเวลาไม่นาน รวมถึงเอปสันมีโซลูชันพร้อมให้ใช้งาน โดยไม่ต้องทำเองทั้งหมด ช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนไปได้เยอะ ข้อดีอีกอย่างคือมลพิษน้อยกว่าเครื่องพิมพ์แบบอนาล็อกหรือออฟเซ็ทที่ต้องเปิดเครื่องตลอดเวลาด้วย

Micro Piezo เทคโนโลยีการพิมพ์สำคัญของเอปสัน

ทุกวันนี้เครื่องพิมพ์ของเอปสัน ทุกเครื่องตั้งแต่เครื่องพิมพ์ขนาดเล็กใช้งานในบ้าน ไปจนถึงเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ล้วนใช้เทคโนโลยีการพิมพ์เฉพาะของเอปสัน ที่เรียกว่าเทคโนโลยี Micro Piezo

เทคโนโลยี Micro Piezo จะใช้ Piezo Element ที่จะหดตัวเมื่อทำปฏิกริยากับไฟฟ้า ทำให้แผ่น Vibration Plate ที่อยู่ติดกัน ขยับ และไปดันให้หมึกไหลออกจากหัวพิมพ์ต่อไป

จุดเด่นของ Micro Piezo จึงอยู่ที่การไม่ใช้ความร้อนกับตัวหมึก ทำให้เครื่องพิมพ์ของเอปสันรองรับหมึกที่มีคุณสมบัติหลากหลายได้มากกว่าและหัวพิมพ์มีอายุการใช้งานที่นานกว่า และเทคโนโลยี Micro Piezo ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี VSDT (Variable Size Dot Technology) ที่สามารถควบคุมการปล่อยหมึกให้มีขนาดเหมาะสมได้อย่างแม่นยำในทุกๆ หยด
ช่วยให้การพิมพ์งานรวดเร็วและมีคุณภาพงานพิมพ์ที่ดียิ่งขึ้น

ทาง Epson ได้แบ่งผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องพิมพ์ลาเบลออกเป็น 3 กลุ่มแตกต่างกันไปตามการใช้งานและกลุ่มเป้าหมายได้แก่

1. งานพิมพ์สำหรับโรงพิมพ์

กลุ่มแรกสำหรับโรงพิมพ์ขนาดใหญ่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ลาเบล คือ รุ่น SurePress L-4533AW เป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาตอบโจทย์การพิมพ์ครั้งละจำนวนมากๆ และแน่นอน SurePress ก็ใช้เทคโนโลยี Micro Piezo และรองรับหมึกทั้ง 8 สี (รวมหมึกสีขาว, สีส้ม และสีเขียว) ทำให้ได้ความกว้างของสี (colour gamut) ที่ค่อนข้างกว้างขึ้น ซึ่งมากกว่าเครื่องพิมพ์แบบออฟเซ็ทด้วย

SurePress L-4533AW เป็นเครื่องพิมพ์ระบบอัตโนมัติ รองรับวัสดุกระดาษได้หลากหลาย โดยไม่ต้องทำการเคลือบผิวก่อน ความกว้างของหน้ากระดาษก็รองรับตั้งแต่ 8 เซนติเมตรไปจนถึง 33 เซนติเมตร บางได้ถึง 0.05 มิลลิเมตร และพิมพ์เร็วถึง 8 เมตรต่อนาที

2. งานพิมพ์ฉลากอุตสาหกรรมหรือบรรจุภัณฑ์

งานพิมพ์กลุ่ม ColorWorks มีผลิตภัณฑ์หลายตัว แต่ตอบโจทย์เดียวกันคือ กลุ่มผู้ประกอบการ SME หรือ OTOP ที่มีปริมาณงานไม่เยอะ หลากหลายแบบ ไปจนถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างเคมีภัณฑ์, ธุรกิจสุขภาพ, โลจิสติกส์ ฯลฯ

เครื่องพิมพ์ในกลุ่มนี้ใช้เทคโนโลยี Micro Piezo เช่นเดียวกับ SurePress สามารถเพิ่มความเร็วในการพิมพ์มากขึ้นกว่าเดิม ให้สีสันสดใส สามารถพิมพ์ฉลากสีได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องใช้แบบ pre-printed ช่วยประหยัดต้นทุนไปได้ค่อนข้างมาก ที่สำคัญคือรองรับวัสดุที่นำมาพิมพ์หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการพิมพ์ RFID Tag หรือ NFC Tag ก็มีเครื่องพิมพ์ที่รองรับเช่นกัน

3. งานพิมพ์ฉลากขนาดเล็ก

เครื่องพิมพ์กลุ่มสุดท้าย คือกลุ่ม LabelWorks เป็นเครื่องพิมพ์สำหรับฉลาก (Label) ขนาดเล็ก เช่น ป้ายเตือน ป้ายติดตู้หรือบอร์ดต่างๆ ไปจนถึงฉลากที่ใช้ในอุตสาหกรรม อาทิ ฉลากติดสายเคเบิลหรือสายไฟ

เครื่องพิมพ์ในกลุ่มนี้ค่อนข้างมีความหลากหลายในการใช้งานเฉพาะ อาทิ LW-Pro100 เครื่องพิมพ์ตั้งโต๊ะที่รองรับความกว้างของฉลากตั้งแต่ 50 และ 100 มิลลิเมตร และเทปฉลากสำหรับพิมพ์ของเอปสัน ก็ทนความร้อน ความเย็น และความชื้น เหมาะสมกับทุกสภาพแวดล้อม

ส่วนเครื่องพิมพ์สำหรับฉลากสำหรับอุตสาหกรรมก็มีรุ่น LW-Z900FK ที่สามารถพกพาได้ และสั่งพิมพ์ได้จากเครื่องพิมพ์โดยตรง รองรับหน้ากว้างของฉลากตั้งแต่ 6-36 มิลลิเมตร รองรับฉลากหลากหลายขนาด หลายชนิด และมีหลายสีให้เลือกใช้ได้ตามความต้องการ

สรุป

เอปสันเป็นเจ้าแรกที่มีไลน์สินค้าในกลุ่มเครื่องพิมพ์ฉลาก (Label) ครบทุกความต้องการของตลาด ตั้งแต่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็กแบบโฮมยูส ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่ม SME หรือ OTOP ที่ต้องการพิมพ์ฉลากบรรจุภัณฑ์ เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าด้วยตัวเอง

หากสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.epson.co.th

Blognone Jobs Premium