อดีตพนักงานผู้ถูก Tesla ฟ้องอ้างว่าสิ่งที่เขาทำเพราะต้องการตีแผ่ปัญหาที่ Tesla ซุกไว้

by ตะโร่งโต้ง
21 June 2018 - 18:24

จากข่าวที่ Elon Musk ส่งอีเมลถึงพนักงานของ Tesla ระบุว่ามีคนเป็นหนอนบ่อนไส้ในบริษัท ซึ่งล่าสุด Tesla ได้ไล่พนักงานคนดังกล่าวออกไปและฟ้องร้องอดีตพนักงานผู้นี้ซึ่งมีชื่อว่า Martin Tripp ในข้อหาขโมยข้อมูลของบริษัทไปให้บุคคลภายนอก ล่าสุด Tripp ผู้ถูกฟ้องได้บอกเล่าเรื่องราวในมุมมองของฝั่งตนเองผ่านทางสื่อ The Washington Post บ้าง

Tripp บอกว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้นหาได้เป็นเพราะความไม่พอใจกับการที่ไม่ได้เลื่อนขั้นอย่างที่บริษัทรถชื่อดังกล่าวหาไม่ หากแต่เขาตัดสินใจกระทำการลงไปเพราะต้องการตีแผ่ให้สังคมได้รับรู้ถึง "สิ่งน่าสะพรึงที่เขาได้เห็น" ในบริษัท Tesla

คำฟ้องของ Tesla กล่าวหา Tripp ผู้เข้าทำงานกับ Tesla ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อนว่ากระทำการขโมยข้อมูลอันเป็นความลับของบริษัทไปให้ผู้อื่น โดยมีการเขียนโค้ดเพื่อทำการถ่ายโอนข้อมูลออกไป และยังระบุว่า Tripp ได้ให้ข้อมูลบิดเบือนแก่สื่อ โดยมีข้อมูลโจมตีว่า Tesla ใช้แบตเตอรี่ที่ไม่ได้มาตรฐานกับรถยนต์ Model 3

Tripp ถ่ายทอดความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้แก่ The Washington Post โดยเจ้าตัวก็มิได้ปฏิเสธเรื่องนำข้อมูลภายในโรงงาน Gigafactory ออกมาเผยแพร่ เขาบอกว่าได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบที่ต้องทิ้งเปล่าเป็นจำนวนมาก โดยส่งให้แก่ Business Insider เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

Tripp บอกว่าที่เขาทำเช่นนั้นเพราะเขารู้สึกนิ่งเฉยไม่ได้กับสิ่งที่เขาได้เห็นในระหว่างการทำงาน ซึ่ง Business Insider ได้เผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวหลังจากที่ได้ตรวจสอบเนื้อหาที่ Tripp ส่งให้ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจ โดยเนื้อหาหลักสะท้อนภาพปัญหาการจัดการกระบวนการผลิตรถ Model 3 ที่อลหม่าน เต็มไปด้วยการเสียเปล่า เร่งรีบจนเกินจุดพอดีและมีปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีหัวข้อที่เป็นประเด็นสำคัญ ดังนี้

  • เอกสารลงวันที่ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ระบุว่า วัตถุดิบเพื่อการผลิตแบตเตอรี่และอุปกรณ์ขับเคลื่อนกว่า 40% ต้องถูกทำลายทิ้งเสียเปล่าหรือต้องใช้พนักงานมาทำการแก้ไขชิ้นงานเสียใหม่จึงจะส่งไปยังโรงงานที่ California เพื่อประกอบรถ Model 3 ได้ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนการสูญเสียที่สูงและมีการประเมินค่าใช้จ่ายในการจัดการวัตถุดิบที่ต้องทิ้งนั้นเป็นเงิน 150 ล้านเหรียญ โดย Tesla โต้ตอบว่าตัวเลข 150 ล้านเหรียญของ Business Insider นั้นสูงเกินจริง
  • หนึ่งในตัวอย่างของการจัดการกระบวนการผลิตที่ย่ำแย่ คือระบบหุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่เคลื่อนย้ายชุดแบตเตอรี่ เนื่องจากการโปรแกรมที่ผิดพลาดทำให้หุ่นยนต์สร้างรอยกดย้ำๆ จนเกิดเป็นรูทะลุเปลือกพลาสติกภายนอกของแบตเตอรี่ และสำหรับแบตเตอรี่บางลูกแล้วความเสียหายนั้นมีเข้าไปถึงในเซลล์แบตเตอรี่ ทว่าแทนที่แบตเตอรี่ซึ่งได้รับความเสียหายเหล่านั้นจะถูกทำลาย พวกมันกลับถูกนำไปซ่อมแซมโดยการอุดรูโหว่ด้วยกาวและนำกลับเข้าสู่สายการผลิตเพื่อใช้ประกอบในรถยนต์ โดยข้อมูลในเอกสารได้ประเมินจำนวนแบตเตอรี่ที่มีปัญหาลักษณะนี้มากกว่า 1,000 ชิ้น
  • Tesla ปฏิเสธเรื่องจำนวนแบตเตอรี่ที่เสียหายโดยบอกว่ามีเพียงไม่กี่ชิ้นและไม่มีชิ้นไหนถูกนำมาใช้ต่อในกระบวนการผลิต แต่เมื่อ Business Insider ตรวจสอบเอกสารที่ได้รับมาที่มีการบันทึกล็อตการผลิตและความเชื่อมโยงได้พบว่าแบตเตอรี่ที่ถูกระบุว่ามีปัญหาถูกนำไปใส่ในรถยนต์ของ Tesla หลายร้อยคัน ทาง Business Insider ได้อ้างอิงหมายเลขประจำตัวรถคันหนึ่งจากกลุ่มนี้และสอบถามไปยัง Tesla แต่ก็ไม่ได้รับการยืนยันหรือปฏิเสธว่ารถยนต์หมายเลขดังกล่าวมีแบตเตอรี่ที่มีปัญหาถูกหุ่นยนต์เจาะรูติดตั้งไว้จริงหรือไม่ โดย Tesla กล่าวแต่เพียงว่าชิ้นส่วนที่ไม่ได้คุณภาพจะไม่ถูกนำไปใช้งาน
  • Business Insider ระบุว่าเห็นภาพถ่ายชิ้นส่วนเพื่อการผลิตแบตเตอรี่ที่เรียกว่า "bandolier" ถูกผลิตมาโดยใช้กาวที่กำหนดส่วนผสมมาผิดพลาด ผลคือชิ้นส่วนไม่ได้มาตรฐานนี้ถูกวางทิ้งไว้บนพื้น ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการจัดเก็บขยะหรือวัตถุอันตรายที่ไม่เหมาะสม ทว่า Tesla ปฏิเสธว่าชิ้นส่วน "bandolier" นี้ยังไม่ถูกเชื่อมต่อวงจรไฟฟ้าและยังไม่ถูกชาร์จไฟ โดย Tesla อ้างว่าภาพที่เห็นนั้นเป็นการเก็บชิ้นส่วนไว้ในห้องควบคุมอุณหภูมิซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
  • เอกสารบางส่วนที่ Business Insider ได้รับเป็นข้อมูลการประเมินมูลค่าความสูญเสียของวัตถุดิบที่ต้องทิ้งไปในระหว่างการผลิต
  • มีภาพถ่ายชิ้นส่วนและวัสดุเพื่อการผลิตที่ถูกสุมทิ้งไว้เป็นกองขนาดใหญ่ในโรงงาน Gigafactory โดยมีชิ้นส่วนไวไฟที่ใช้เพื่อการผลิตแบตเตอรี่ปะปนรวมอยู่ในนั้นด้วย ซึ่ง Tesla ก็ชี้แจงว่าภาพเศษชิ้นส่วนที่เห็นนั้นเป็นการเก็บวัสดุในห้องควบคุมอุณหภูมิและไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเช่นกัน
  • Business Insider อ้างว่าได้ข้อมูลจากคำบอกเล่าจากแหล่งข่าว (ซึ่งหมายถึง Tripp) ว่ามีขยะจำนวนมากถูกซุกไว้ในโกดังที่ Ireland Drive ซึ่งเรื่องนี้ Tesla ก็ออกมาปฏิเสธเช่นกันโดยระบุว่าโกดังดังกล่าวเอาไว้ใช้เก็บเฉพาะชิ้นส่วนที่สั่งซื้อจากผู้ผลิตชิ้นส่วนและผู้จัดจำหน่ายชิ้นส่วนเท่านั้น
  • เนื้อความอีเมลภายในส่วนหนึ่งที่ Business Insider ได้รับ ระบุว่ากระบวนการปรับปรุงการผลิตที่ Elon Musk กล่าวว่าใช้หุ่นยนต์มากเกินไปนั้น เอาเข้าจริงการปรับปรุงที่ว่าคือการปิดการทำงานหรือลัดขั้นตอนการทำงานของหุ่นยนต์บางตัวโดยไม่มีแบบแผนที่ผ่านการวิเคราะห์ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างหนึ่งคือพนักงานได้ปิดระบบหุ่นยนต์ที่ใช้เพื่อการติดตามการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนในสายการผลิต (geanology) ซึ่งการใช้ระบบติดตามชิ้นส่วนนี้ถือเป็นแนวปฏิบัติพื้นฐานที่ใช้กันโดยทั่วไปในโรงงานอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ ทั้งนี้การตัดสินใจที่ว่าทำด้วยเกณฑ์ง่ายๆ เพียงแค่เพราะมันทำให้กระบวนการผลิตรถใช้เวลานานกว่าที่ Musk ต้องการ

เกี่ยวกับข้อมูลเหล่านี้ที่ Tripp ได้ส่งให้กับทาง Business Insider นั้น เขากล่าวว่าเขาไม่ได้ใช้วิธีแฮคมันเอามันออกมาอย่างที่ Tesla กล่าวอ้าง เขาบอกว่าเขา "ไม่มีความอดทนพอที่จะมามัวโค้ดโปรแกรม" เขายังปฏิเสธการกล่าวหาของ Tesla ที่ระบุว่าแรงจูงใจในการเอาข้อมูลของบริษัทออกมาเผยแพร่นี้เป็นไปเพื่อแก้แค้นบริษัทที่ไม่เลื่อนขั้นให้เขาด้วย

Tripp บอกว่าเขากำลังหาทนายมาช่วยเรื่องคดีและต้องการการคุ้มกันตามกฎหมาย "Whistleblower Protection Act" ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นกฎหมายปกป้องผู้ที่ตีแผ่เรื่องราวการกระทำผิดกฎหมาย หรือการกระทำที่ไม่ถูกต้องในองค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐหรือเอกชน

กฎหมายนี้ถูกบัญญัติขึ้นเพื่อสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และคุ้มกันลูกจ้างหรือคู่สัญญาในบางกรณี โดยผู้ที่ตีแผ่เรื่องราวความไม่ถูกต้องทั้งการกระทำผิดกฎหมาย, ระเบียบหรือประกาศต่างๆ จากภาครัฐ, การบริหารจัดการที่ไม่เป็นธรรม, การกระทำในลักษณะที่ผลาญเงินทุน รวมทั้งการละเมิดสิทธิ์ ตลอดจนการกระทำที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหรือสวัสดิภาพของผู้คนนั้นจะได้รับการคุ้มกันมิให้ถูกเอาผิดจากการเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าว

Tripp เล่าว่าก่อนจะมาทำงานที่ Tesla เมื่อปลายปีก่อน เขาเคยทำงานในบริษัทผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ แต่เมื่อเขาได้งานที่ Tesla ก็ตัดสินใจย้ายครอบครัวมาที่ Nevada และเชื่อว่านี่คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของเขา แต่เมื่อได้เข้ามาร่วมงานกับ Tesla จริง เขาบอกว่าภาพลวงตาที่เขาเคยเห็นก็หายไปหลังจากที่ได้เห็นว่า Elon Musk โกหกลูกค้าและนักลงทุนเรื่องกำลังการผลิตรถ, การทำงานที่เต็มไปด้วยการสูญเสียเปล่าประโยชน์ และวิถีการทำงานที่ฉาบฉวยไม่สามารถใช้ได้จริงในระยะยาว

Tripp ทิ้งท้ายอีเมลที่ส่งให้ The Washington Post ว่าเขาไม่ได้เปิดเผยเรื่องพวกนี้เพราะอยากทำร้าย Tesla แต่เขาทำเพราะอยากฉายแสงให้ผู้คนได้เห็นถึงภัยแฝงที่ถูกซุกไว้ในมุมมืด และเขาบอกว่าตอนนี้เขาเชื่อแล้วว่า Elon Musk ที่เขาเคยชื่นชมนั้น แท้จริงแล้วก็เป็นแค่ "พวกหลงตัวเอง" ที่สนใจเฉพาะเรื่องของตัวเองเท่านั้น

ที่มา - The Washington Post, Business Insider

Blognone Jobs Premium