ถ้าเรือเดินสมุทรที่ถูกสร้างมาเพื่อการโดยสารเดินทางพักผ่อน เต็มไปด้วยพื้นที่ผ่อนคลาย, กิจกรรมสันทนาการ และห้องพักสะดวกสบายจะถูกเรียกว่า "เรือสำราญ" เช่นนั้นแล้วเรือเหาะที่ถูกสร้างมาด้วยวัตถุประสงค์เดียวกันก็คงจะเรียกได้ว่าเป็น "เรือเหาะสำราญ" ได้เช่นกัน และ Airlander 10 อดีตเรือเหาะเพื่อการทหารก็คือหนึ่งในนั้น
Airlander 10 เป็นเรือเหาะแบบไฮบริดซึ่งอาศัยแรงลอยตัวทั้งจากอากาศสถิตยศาสตร์อันเกิดแรงยกของยานที่บรรจุก๊าซฮีเลียมปริมาณมากเอาไว้ภายในและอากาศพลศาสตร์ซึ่งเป็นแรงยกใต้ปีกและใต้ตัวยานในขณะที่ยานเคลื่อนที่ สร้างโดยบริษัท Hybrid Air Vehicles (HAV) จากสหราชอาณาจักร มันมีขนาดความจุก๊าซ 38,000 ลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าเรือเหาะ Hindenburg อันโด่งดังซึ่งมีความจุก๊าซ 200,000 ลูกบาศก์เมตร ทว่า Airlander 10 ก็ยังครองแชมป์ในฐานะอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ยังคงบินอยู่ในขณะนี้ด้วยความยาวรวมทั้งลำ 91 เมตร
เดิมทีเรือเหาะ Airlander 10 มีชื่อว่า HAV 304 มันถูกสร้างตามคำสั่งซื้อของกองทัพสหรัฐฯ เพื่อใช้งานในโปรแกรม LEMV (Long Endurance Multi-intelligence Vehicle) โดยขึ้นบินครั้งแรกในปี 2012 แต่เมื่อกองทัพสหรัฐฯ ยกเลิกโครงการ LEMV ไป ทาง Hybrid Air Vehicles ก็ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนโฉมเรือเหาะเพื่อการทหารเสียใหม่ให้กลายมาเป็น Airlander 10 เรือเหาะเพื่อการท่องเที่ยวสุดหรู
ล่าสุดในงาน Farnborough Air Show ซึ่งเป็นงานจัดแสดงสินค้าและเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการบิน Hybrid Air Vehicles ได้เผยภาพตัวอย่างภายในห้องโดยสารของ Airlander 10 ว่าหลังการดัดแปลงเสร็จสิ้นแล้วจะน่าอยู่ และเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงไหน โดยงานนี้ได้ Design Q มาช่วยออกแบบงานตกแต่งภายในห้องพักและห้องโดยสาร
ภายในห้องโดยสารซึ่งมีความยาวรวม 45 เมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 19 คน สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวนาน 3 วัน รอบห้องโดยสารเป็นกระจกใสโดยตลอด ให้ผู้โดยสารสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้รอบด้าน
พื้นห้องโดยสารบริเวณส่วนหน้าสุด "Infinity Lounge" ติดตั้งกระจกให้มองเห็นพื้นโลกเบื้องล่าง เพื่อบรรยากาศการสังสรรค์กันแบบ "ไม่รู้จบ"
มี "Altitude Bar" บาร์เครื่องดื่มแบบจัดเต็มในพื้นที่ส่วนกลาง จิบเครื่องดื่มผ่อนคลายในบรรยากาศ "เหนือเมฆ"
พื้นที่นั่งเล่น ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนใช้งานเป็นห้องอาหารสำหรับผู้โดยสารทุกคน
และในส่วนของห้องพักนั้น ผู้โดยสารจะได้ห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน มีเตียงขนาดใหญ่ที่ชมวิวด้านนอกได้เต็มตาพร้อมห้องน้ำในตัว
เนื่องจากแรกเริ่มงานสร้างเรือเหาะนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการใช้งานทางทหารสำหรับเป็นศูนย์ควบคุมและสั่งการเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ห่างไกล มันจึงถูกออกแบบให้สามารถบินได้สูง 6 กิโลเมตรเหนือระดับน้ำทะเล (20,000 ฟุต) สามารถเคลื่อนย้ายสัมภาระหนัก 7 ตันได้ด้วยความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีพิสัยการบินเกิน 3,000 กิโลเมตร มีระบบจ่ายไฟในตัวเพื่อเลี้ยงอุปกรณ์ในห้องควบคุมและห้องโดยสาร 16 กิโลวัตต์
ตอนนี้ทาง Hybrid Air Vehicles ได้ทำข้อตกลงกับ Henry Cookson Adventures บริษัทท่องเที่ยวแบบหรูหรา เพื่อเตรียมเปิดแพ็คเกจบริการเดินทางท่องเที่ยว โดยมีการทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์และนักสำรวจเพื่อเสนอการเดินทางไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวซึ่งยากจะเข้าถึง เนื่องด้วยข้อได้เปรียบของเรือเหาะที่สามารถเดินทางทางอากาศข้ามผ่านสิ่งกีดขวางตามธรรมชาติได้ง่าย ในขณะที่การขึ้นบินและลงจอดก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยรันเวย์ ทั้งนี้ Airlander 10 สามารถลงจอดได้ทั้งบริเวณผืนทราย, น้ำแข็ง หรือแม้กระทั่งกลางน้ำ ทำให้การเดินทางไปยังขั้วโลกหรือทะเลทราย หรือเกาะกลางทะเลก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
Airlander 10 ที่ปรับปรุงใหม่จะทำการบินทดสอบเพื่อให้ผ่านการรับรองสำหรับให้บริการโดยสารภายในปีนี้ ทั้งนี้ยังไม่มีการประกาศข่าวว่าจะเริ่มให้บริการพาเที่ยวจริงได้ประมาณเมื่อไหร่ เช่นเดียวกับราคาค่าบริการที่ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา
ที่มา - CNET, Interesting Engineering