Blognone

นักวิเคราะห์มอง สมาร์ทโฟนรุ่นบน ราคาขึ้นไปได้อีกมาก เพราะถึงแพงก็ยังมีคนจำนวนมากยินดีซื้อ

authorby arjin
published on11 August 2018 - 13:53

ย้อนกลับไปเมื่อตอนแอปเปิลเปิดตัว iPhone X ข้อวิจารณ์หนึ่งที่มีค่อนข้างมากก็คือราคาที่แพง โดยเฉพาะในมุมฝั่งอเมริกาที่ราคาขึ้นไปถึงเป็นเลขสี่หลัก คือเกือบหนึ่งพันดอลลาร์ ส่วนในไทยราคาก็ทะลุ 4 หมื่นบาท

อย่างไรก็ตามผลประกอบการของแอปเปิลที่ออกมา สะท้อนว่า iPhone X น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีมากของแอปเปิล ทั้งจากคำพูดของซีอีโอ Tim Cook เอง ไปจนถึงตัวเลขในผลประกอบการ ที่จำนวนเครื่องขายเพิ่มได้ไม่มาก แต่ยอดขายเฉลี่ยต่อเครื่องเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งก็ย่อมมาจาก iPhone X นั่นเอง

ราคาสมาร์ทโฟนที่แพงขึ้นนี้ถูกย้ำอีกครั้งด้วย Galaxy Note 9 ของซัมซุงที่เพิ่งเปิดตัว ซึ่งก็ตั้งราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์ในอเมริกา อย่างไรก็ตามในไทยราคายังไม่ถึง 4 หมื่นแบบ iPhone X โดยขายเริ่มต้นที่ 33,900 บาท เมื่อรวมกับข่าวว่า iPhone รุ่นถัดไปที่ราคาน่าจะแพงขึ้นกว่านี้อีก (ข่าวลือคือ 1,200 ดอลลาร์) ก็อาจสะท้อนว่าตลาดสมาร์ทโฟนระดับบน ดูเหมือนจะไม่รู้จักคำว่าราคาที่ถูกลงแล้วเช่นนั้นหรือไม่?

Jessican Dolcourt แห่ง CNET พยายามหาคำตอบเรื่องนี้ และข่าวร้ายก็คือ ยุคของสมาร์ทโฟนราคาแพงนั้นอาจจะแค่กำลังเริ่มต้น

iPhone X

ไม่ใช่แค่ Apple แต่แพงขึ้นกันทั้งตลาด

โดยเมื่อพิจารณาราคาขายของสมาร์ทโฟนรุ่นแฟล็กชิปบนสุดของแต่ละค่าย พบว่า 3 ปีย้อนหลัง Galaxy ตระกูล S มีการขยับราคาขึ้นถึง 15%, iPhone รุ่นปกติเพิ่มขึ้น 8% ขณะที่ OnePlus เพิ่มขึ้นกว่า 30% และเป็นเช่นนี้สำหรับทุกแบรนด์สมาร์ทโฟน

CNET ได้สอบถามผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทุกค่ายในเรื่องนี้ แต่มีเพียงบางรายที่ให้คำตอบ เช่น LG บอกว่า มีหลายปัจจัยทั้งราคาชิ้นส่วน, การแข่งขันในตลาด, ส่วนแบ่งที่ต้องจ่ายให้โอเปอเรเตอร์ ซึ่งทำให้สมาร์ทโฟนต้องปรับราคาเพิ่มขึ้น ส่วน OnePlus บอกว่าแนวโน้มอุตสาหกรรม มีความต้องการชิ้นส่วนเพิ่มขึ้นมากกว่ากำลังการผลิต และต้องการคุณภาพชิ้นส่วนที่สูงขึ้นมาก ราคาที่ผู้ผลิตต้องจ่ายจึงสูงขึ้นตาม

alt="iPhone X"

นักวิเคราะห์มอง เป็นแผนการตลาด

ดูเหมือนชิ้นส่วนที่ใส่เข้ามา มีต้นทุนที่สูง ก็เลยทำให้ราคาสมาร์ทโฟนต้องแพงขึ้น แต่ Ben Wood นักวิเคราะห์จาก CCS Insight ไม่คิดเช่นนั้น เขาบอกว่าชิ้นส่วนราคาอาจแพงขึ้นแต่ไม่ได้มาก สิ่งที่เหนือกว่านั้นคือคนอาจจะบ่นกันเยอะว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นนี้แพง แต่ก็มีคนไม่น้อยที่ไม่บ่น และเดินออกไปซื้อเลย เขาเชื่อว่าแอปเปิลเองก็เข้าใจคนกลุ่มนี้ จึงกล้าขึ้นราคา iPhone เพื่อทำให้ตำแหน่งทางการตลาดดูสูงกว่าคู่แข่งขึ้นไปอีก และคู่แข่งก็เลือกขึ้นราคาตามเพื่อปรับตำแหน่งสินค้าด้วย

Carolina Milanesi นักวิเคราะห์จาก Creative Strategies มองว่าสมาร์ทโฟนสามารถตั้งราคาแพงขึ้นไปมากกว่านี้ได้อีก เหตุผลสนับสนุนหนึ่งคือสมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ราคาอาจจะแพงขึ้น แต่ถ้าคนซื้อยังรู้สึกว่าสามารถใช้ได้คุ้ม เขาก็พร้อมจ่ายอยู่ดี

นักวิเคราะห์ Ben Wood ยังบอกว่าอันที่จริงผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอาจต้องขอบคุณแอปเปิล เพราะทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนระดับบน มีพื้นที่ทำอัตรากำไรได้สูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง หากโทรศัพท์มีฟีเจอร์ลูกเล่นที่น่าสนใจมากพอ

สมาร์ทโฟนกลุ่ม กลาง-ล่าง ไม่กระทบ

ข่าวดีก็คือราคาสมาร์ทโฟนที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ นั้น คงเกิดเฉพาะระดับบนเท่านั้น เพราะในกลุ่มสินค้าระดับกลางถึงล่าง แนวโน้มราคาแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ดูได้จากราคาของผู้ผลิตที่โดดเด่นในตลาดนี้อย่าง Xiaomi, Nokia และ Oppo

เหตุผลสำคัญก็คือลูกค้าในกลุ่มนี้ มีความอ่อนไหวต่อราคาสูง (Price Sensitive) สมาร์ทโฟนที่เน้นขายกลุ่มนี้จึงต้องพยายามคุมราคา และใส่สเป็กที่ทำให้รู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ฉะนั้นสัญญาณราคามือถือที่แพง จึงไม่เกิดกับกลุ่มนี้ และถือเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุดของตลาด

อาจสรุปได้ว่า หากคุณรู้สึกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นบนมีราคาแพงเหลือเกิน การมองมาที่สมาร์ทโฟนระดับกลางที่จ่ายเงินน้อยลง แต่สเป็กและฟีเจอร์อาจตัดทอนไปบ้างในระดับที่ยอมรับได้ คงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับหลายคน

ที่มา: CNET

Blognone Jobs Premium