ผ่านไปสดๆ ร้อนๆ กับนิทรรศการเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น Tokyo Game Show 2018 โดยในปีนี้งานจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20-23 กันยายนที่ผ่านมา ณ Makuhari Messe เช่นเคยครับ สำหรับปีนี้มีบริษัทมาร่วมงานทั้งสิ้น 668 บริษัท และมีผู้ร่วมงานตลอดสี่วันรวมทั้งสิ้นถึง 298,690 คน ซึ่งถือว่าเป็นปีที่มีผู้ร่วมงานมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ครับ ปีนี้ผมมีโอกาสไปร่วมงานสองวัน คือวันที่ 21 ซึ่งเป็น Business Day และวันที่ 23 ซึ่งเป็น Public Day ครับ
เขียนบทนำมาทุกปี ต้องสารภาพว่าหมดมุก ไม่รู้จะขึ้นต้นยังไงแล้วครับ เอาเป็นว่าไปชมบูทที่น่าสนใจกันเลยแล้วกันครับ
PlayStation เป็นจุดหมายหลักของเราดังเช่นทุกๆ ปีครับ รอบๆ บูทมีจุดถ่ายภาพน่าสนใจมากมาย โดยจุดที่ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานเป็นพิเศษคือหุ่น Norman Reedus จาก Death Stranding ครับ นอกจากนี้ในงานยังมีเครื่อง PlayStation Classic รวมถึงเครื่อง PlayStation 4 รุ่น Limited Edition ต่างๆ มาจัดแสดงอีกด้วย
สำหรับเป้าหมายหลักของผมในปีนี้คือไปลองเล่น Sekiro: Shadows Die Twice เกมใหม่จาก From Software ผู้สร้างเกม Dark Souls และ Bloodborne อันลืนลั่น ระบบต่อสู้ในเกมนี้เปลี่ยนไปจากเกมในตระกูล Soulsborne ค่อนข้างมากครับ ส่วนตัวผมรู้สึกว่าความเร็วของเกมนั้นจะเร็วกว่า Bloodborne เล็กน้อย เนื่องจากไม่มีระบบ Stamina อีกแล้ว แต่จะเน้นไปที่การทำลายการ์ดเพื่อเปิดช่องสำหรับทำ 1-Hit Kill แทน นอกจากนี้ เกมนี้ยังมีสุดยอดนวัตกรรม นั่นคือ “ปุ่มกระโดด” ส่งผลให้แผนที่ในเกมนี้เปิดกว้างในแนวตั้งมากขึ้น ซึ่งก็ทำเอาผมหลงทางอยู่พักใหญ่ๆ เพราะทางที่ต้องไปต่อนั้นต้องกระโดดลงไปในเหว สุดท้ายผมก็คลำทางไปถึงบอส แต่น่าเสียดายที่สู้กับบอสได้ไม่ทันไร เวลาก็หมดลงเสียก่อนครับ
นอกจากนี้ผมยังมีโอกาสได้ลองเล่น Devil May Cry 5 (ซึ่งจริงๆ ไปเล่นที่บูท Capcom ก็ได้เหมือนกัน) ระบบการเล่นให้ความรู้สึกแบบ Devil May Cry 3-4 ย้อนกลับมาเต็มที่ครับ
ในวันอาทิตย์ ผมมีโอกาสได้ร่วมฟัง Death Stranding Stage Event ด้วยครับ ซึ่งแม้ผมจะมารอที่หน้าเวทีก่อนกำหนดถึงกว่าหนึ่งชั่วโมง แต่ก็ประมาทแฟนๆ Kojima เกินไป ที่ยืนหน้าเวทีเต็มหมดแล้ว ต้องมอง Kojima อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ แทนครับ (แต่อย่างน้อยก็ได้เจอ Mizuki Nana ตัวเป็นๆ ฟินแล้วครับ)
ข้อมูลเปิดเผย ผู้เขียนเป็นพนักงานของบริษัท Sony ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Sony Interactive Entertainment เจ้าของแบรนด์ PlayStation แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับทาง PlayStation แต่ประการใด
สำหรับเกมที่เด่นที่สุดของ Square Enix ในปีนี้นั้นก็หนีไม่พ้น Kingdom Hearts III ครับ ภายในบูทมีส่วนจัดแสดง และโซนถ่ายรูปในธีมเกมนี้ขนาดใหญ่ สำหรับเกมอื่นๆ ที่น่าสนใจก็มี Dragon Quest Builder 2 และ Final Fantasy XIV แต่โดน Kingdom Hearts III กลบรัศมีหมดเลยครับ ฮา
แม้ว่าในปีนี้ Konami จะขนเกมมาจัดแสดงหลายเกม แต่เกมที่ควรจะโดดเด่น อย่างเช่น Super Bomberman R, Yu-Gi-Oh! DUEL LINKS, หรือ Winning Eleven 2019 (Pro Evolution Soccer 2019) ก็ยังต้องพ่ายรัศมีสุดยอดเกมทำลายมวลมนุษยชาติอย่าง Love Plus EVERY ครับ
ส่วน Falcom ที่จัดบูทอยู่ด้วยกันเสมอๆ ปีนี้เอา Sen no Kiseki IV (Trail of the Cold Steel IV) ซึ่งเป็นภาคจบของเกมในตระกูล Sen no Kiseki มาให้ลองเล่น พร้อมกับแจกแก้วน้ำที่ระลึก ระบบการเล่นยังเป็นแนว Classic JRPG ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากภาคก่อนๆ มากนัก แต่จุดขายของเกมนี้อยู่ที่เนื้อเรื่องสุดเข้มข้น (และนางเอกสุดน่ารัก) จึงไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดครับ
ปีนี้ Capcom ปีนี้มายิ่งใหญ่อีกแล้วครับ ด้านหน้าบูทเป็นโซนทดลองเล่นเกมที่เด่นที่สุดคือ Devil May Cry 5 และ Biohazard RE:2 (Resident Evil 2) โดยเฉพาะทางฝั่ง Biohazard นี่จัดเป็นบ้านผีสิงขนาดเล็กๆ ก่อนจะเข้าไปถึงส่วนทดลองเล่นเกม ตื่นตาตื่นใจดีทีเดียวครับ
อีกส่วนที่น่าสนใจคือนิทรรศการ Rockman ครับ โดยมีการจัดแสดงประวัติเกมตระกูล Rockman รวมถึงของสะสมเนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ของเกมตระกูลนี้
Sega และ Atlus จัดบูทอยู่รวมกันครับ โดยเกมที่เด่นที่สุดจากทาง Sega คือ Judge Eyes เกมใหม่จากทีมผู้สร้างเกมตระกูล Yakuza แต่เนื่องจากตัว เดโมของเกมนี้ มีให้เล่นบน PSN Store Japan อยู่แล้ว ผมจึงไม่ได้ไปต่อคิวทดลองเล่นครับ
ในส่วนของ Atlus นั้น ที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็น Catherine Full Body ซึ่งแม้จะเป็นการ Remaster เกม Catherine ลงบนเครื่อง PlayStation 4 แต่เกมนี้มีการเพิ่ม Content ใหม่ๆ (นางเอกใหม่! พากย์โดย Hirano Aya อีกต่างหาก!) มากมาย ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานค่อนข้างคับคั่งครับ โดยเฉพาะประตูทางเข้าส่วนทดลองเล่นเกมที่ให้มุดใต้กระโปรงเข้าไปนี่ช่างชวนฝัน เข้ากับธีมของเกมเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ก็มี Persona Q2 ที่จัดโซนทดลองเล่นเกมมาเป็นธีมร้านกาแฟจากเกม Persona 5 ได้บรรยากาศมากๆ ครับ
ที่นี่ผมได้ไปลองเล่น Nelke to Densetsu no Renkinjutsushi-tachi (Nelke & the Legendary Alchemists) ซึ่งเป็นภาคแยกจากเกมในตระกูล Atelier ครับ ระบบการเล่นเปลี่ยนไปจากเกมเดิมๆ โดยสิ้นเชิง โดยในเกมนี้ เราจะไม่ได้เล่นเป็นสาวปรุงยาอีกแล้ว แต่เกมจะออกไปทาง City Management Simulation + Light JRPG มากกว่าครับ แต่แม้จะไม่ได้ปรุงยาด้วยตัวเอง แต่เราจะได้พบกับเหล่าตัวเอกจากเกมก่อนหน้ามากมาย ได้ใจแฟนเก่าของเกมตระกูลนี้ไปเต็มๆ ครับ
ปีนี้มาแปลกครับ PUBG มาเปิดบูทขนาดมโหฬาร (เทียบขนาดบูทเท่าๆ กับขาใหญ่อย่าง PlayStation หรือ Capcom เลยทีเดียว) โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเวทีโชว์การแข่งขันเกม PUBG และมีส่วนให้ผู้ร่วมงานทดลองเล่น PUBG Mobile เล็กๆ อยู่ด้านข้างครับ นับว่าเป็นการใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่า น่าไปดูงาน สำหรับเกมที่ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักว่ายังขาดความสมบูรณ์ครับ
สำหรับงานในปีนี้ แม้จะมีผู้ร่วมงานเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว แต่ส่วนตัวผมกลับรู้สึกคึกคักน้อยลงกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากไม่ค่อยมีประกาศอะไรใหม่ๆ สักเท่าไหร่ และมีเกมที่น่าสนใจจริงๆ ไม่มากนักครับ ภาพทั้งหมดสามารถรับชมได้ใน Album ใน Flickr ครับ สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Blognone ที่ให้โอกาสผมเป็นตัวแทนไปร่วมงาน แล้วพบกันใหม่ปีหน้านะครับ