ที่ผ่านมาการตั้งชื่อรุ่นของ iPhone ก็มักเรียบง่ายหรือชัดเจนว่าเป็นอย่างไร แต่เมื่อมาถึงรุ่นล่าสุดอย่างชื่อ iPhone XS Max ก็ดูเหมือนการตั้งชื่อรุ่น iPhone จะดูแปลกไป ซึ่ง Ken Segall อดีตผู้บริหารด้านงานโฆษณาที่ทำงานร่วมกับแอปเปิลมาตั้งแต่สมัยสตีฟ จ็อบส์ ผู้เสนอให้เพิ่ม i ใน iMac และทำแคมเปญ Think Different ได้เขียนบล็อกแสดงความกังวลต่อวิธีตั้งชื่อรุ่น iPhone
โดยบล็อกดังกล่าวชื่อหัวข้อว่า เดินไปข้างหน้า 1 ก้าว แต่ถอยหลัง 4 ก้าว (1 step forward, 4 steps back) กล่าวว่าการตั้งชื่อ iPhone ปัจจุบันนั้นยากเกินความเข้าใจพื้นฐานมาก ตัวอย่างเช่นปีก่อนมี 8, 8 Plus, X และ SE ซึ่งแทนที่จะใช้ตัวเลขให้หมด ก็ไปใช้เลขโรมันกับ X (10) แถมยังเว้นระยะ 8 กับ 10 อีก ดูซับซ้อนเกินไปสำหรับบริษัทที่มักบอกว่าเน้นความเรียบง่าย
เขาบอกว่าปัญหานี้จึงตามมาถึงรุ่น XS และ XR ว่าต้องอ่านอย่างไรกันแน่จึงถูกต้องเพราะเป็นการผสมเลขโรมันกับตัวอักษร (ซึ่งที่ถูกคือ Ten-S แต่หลายคนก็จะอ่าน X-S) นอกจากนี้เขายังบอกว่าแอปเปิลควรเลิกใช้อักษรที่ทำให้ตีความไม่ถูกว่าย่อมาจากอะไร ทั้งรุ่น SE และ R ในรุ่น XR
ปัญหาต่อมาคือรุ่นตระกูล S ซึ่งแอปเปิลใช้วิธีนี้มานานจน S กลายเป็นความหมายว่า รูปร่างเดิม แต่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่บางอย่าง ซึ่ง Segall มองว่าฟีเจอร์ใหม่ที่ใส่มาในรุ่น S นั้นมักเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมาก ทั้ง Siri, ชิป 64-bit และ Touch ID แอปเปิลควรทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากกว่ามาแบบปีเว้นปี อย่างที่ทำอยู่ตอนนี้
สุดท้ายเขาเชื่อว่า X จะเป็นชื่อรุ่นที่หยุดไว้สำหรับแอปเปิลระยะหนึ่งแบบเดียวกับ macOS รวมทั้งเดาว่าถ้าแอปเปิลยังใช้สูตรเดิมต่อไป ปีหน้าชื่อรุ่นก็จะเป็น X2 ตามด้วย X2S
ที่มา: Ken Segall ผ่าน Cult of Mac