หลังจากก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) ยื่นฟ้อง Elon Musk และ Tesla (ยื่นฟ้องแยกกันคนละคดี) จนกระทั่งมีการยอมความไป เอกสารยื่นฟ้องคดีก็แสดงให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
ก่อนหน้าการทวีต ในวันที่ 31 กรกฎาคม Musk เข้าประชุมกับตัวแทนกองทุนจากตะวันออกกลางเรื่องการไปตั้งโรงงาน Tesla ในตะวันออกกลาง ในการประชุมนั้น Musk คิดเอาเอง (assume) ว่าการมาติดต่อให้ตั้งโรงงานนี้เป็นการปูทางไปสู่การนำ Tesla ออกจากตลาด โดยไม่ได้พูดคุยกับตัวแทนกองทุนแต่อย่างใด ไม่มีการพูดถึงสัดส่วนหุ้น, ราคาที่จะรับซื้อหุ้นจากตลาด, เงื่อนไขการถือหุ้นโดยต่างชาติของ Tesla, ปริมาณเงินสดที่กองทุนมี, ประสบการณ์นำหุ้นออกจากตลาด, เงื่อนไขทางกฎหมาย, หรือการเห็นชอบของกรรมการบริษัท มีเพียงคำถามจากตัวแทนกองทุนในช่วงท้ายการประชุมว่าเขาอยากนำหุ้นออกจากตลาดอย่างไร พร้อมกับระบุว่าหากเงื่อนไขของการนำหุ้นออกจากตลาดสมเหตุสมผล ทางกองทุนก็ไม่มีปัญหาอะไร
ในวันที่ 2 สิงหาคม (2 วันหลังการประชุม) Musk เป็นคนส่งอีเมลแจ้งกรรมการบริษัทเรื่องการรับซื้อหุ้นคืนที่ 420 ดอลลาร์ โดยระบุว่า เขาเพิ่งรู้ว่ามันเป็นเลขกัญชา และแฟนของเขาน่าจะคิดว่ามันตลกดี (ข้อ 23 ในเอกสารคำฟ้อง) เขาพูดคุยกับกรรมการบริษัทโดยยอมรับว่ายังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก แต่ก็ขอกรรมการบริษัทไปสำรวจความเห็นนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่
ในวันที่ 6 สิงหาคม Musk ปรึกษาพาร์ตเนอร์ของกองทุนที่เคยนำหุ้นออกจากตลาด ได้คำตอบว่าการนำหุ้น Tesla ออกจากตลาดจะซับซ้อนกว่าประสบการณ์ของพาร์ตเนอร์รายนี้ เพราะมีผู้ถือหุ้นสถาบันถึง 800 รายและรายย่อยอีกมาก
วันที่ 7 สิงหาคม Musk ประกาศเรื่องการนำหุ้นออกจากตลาดโดยไม่ได้ปรึกษากรรมการบริษัทหรือพนักงานอื่น
คำฟ้องของ SEC ยังระบุความผิดของตัวบริษัท Tesla ที่ยื่นแบบฟอร์มไว้ว่าแอคเคาน์ทวีตของ Musk เป็นช่องทางเปิดเผยข้อมูลของบริษัทด้วย แต่บริษัทกลับไม่มีกระบวนการควบคุมใดๆ (Musk ทวีตทั้งหมดจากมือถือของเขาโดยตรง) แถมยังไม่มีนโยบายกำกับการใชัทวิตเตอร์ของ Musk
ที่มา - คำฟ้อง Musk, คำฟ้อง Tesla
ภาพจาก Instagram Joe Rogan