รีวิว Huawei Mate 20 สมาร์ทโฟนเรือธงกล้องสามตัว มีเลนส์มุมกว้าง ถ่ายซุปเปอร์มาโครได้

by RoseGold
25 October 2018 - 11:20

Huawei Mate 20 สมาร์ทโฟน Android ระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของปี 2018 ในตระกูล Mate เป็น 1 ใน 4 ซีรีส์จาก Huawei ที่เปิดตัวไปเมื่อ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ Mate 20 ไล่ตั้งแต่การมีรอยแหว่งของจอแบบหยดน้ำ, ขนาดของจอที่ใหญ่ขึ้น, ฝาหลังที่แฝงมากับลวดลาย พร้อมด้วยกล้องหลังสามตัวที่จัดเรียงในแบบที่ไม่เหมือนใคร

สเปก Huawei Mate 20 รุ่นที่ได้มารีวิว

  • ขนาดตัวเครื่อง 158.2 x 77.2 x 8.3mm
  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2244 x 1080 พิกเซล), สัดส่วน 18.7:9
  • ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับ EMUI 9.0
  • ชิป Kirin 980, จีพียู Mali-G76
  • แรม 6GB, รอม 128GB, รองรับ Nano SDCard 256GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว ประกอบไปด้วย
    • Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, f/2.2
    • เลนส์มุมกว้างปกติ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, f/1.8
    • เลนส์ซูม 2 เท่า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, f/2.4
  • กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล, f/2.0
  • สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง
  • แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh พร้อม Huawei Super Charge

ตัวเครื่อง

การเปลี่ยนแปลงใน Huawei Mate 20 เริ่มตั้งแต่ขนาดตัวเครื่อง 158.2 x 77.2 x 8.3mm ที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อน Huawei Mate 10 Pro (ขนาด 154.2 x 74.5 x 7.9mm.) จอมาพร้อมกับรอยแหว่งขนาดเล็กคล้ายหยดน้ำ ซึ่งต่างจาก Mate 20 Pro กับ Mate 20 RS ที่เป็นรอยแหว่งแบบยาวและใหญ่กว่า

หน้าจอมีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นเป็น 6.53 นิ้ว ใหญ่กว่า Mate 10 Pro ที่มีขนาด 5.9 นิ้ว แต่หากนำ Mate 20 กับ Mate 10 Pro มาวางเทียบกันแล้วจะเห็นว่าขนาดแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนจอของ Mate 20 ใช้เป็นพื้นที่แสดงผลจนเกือบจะเรียกได้ว่าไร้ขอบก็ว่าได้

ฝาหลังของ Mate 20 ใช้วัสดุที่มีลักษณะคล้ายกระจกแฝงมาด้วยลวดลาย ไม่ใช่กระจกเงาแบบเดียวกับฝาหลังของ Mate 10 Pro ซึ่งผิวของฝาหลังที่เปลี่ยนไปทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ยากขึ้น ให้ความกระชับในขณะหยิบถือมากขึ้นและไม่ลื่นอีกด้วย

ส่วนประกอบอื่นๆ โดยรอบตัวเครื่อง บริเวณรอยแหว่งของหน้าจอหากใครที่เห็นแล้วรู้สึกขัดใจก็มีเมนูให้เลือกซ่อนรอยแหว่งนี้ได้ด้วย ในตำแหน่งเดียวกันยังมีกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล เป็นลำโพงสำหรับสนทนาและเป็นลำโพงสำหรับขับเสียงตัวเดียวกันด้วย รอบนี้ Huawei ใส่ลำโพงมาทั้งด้านบนและด้านล่าง ส่วนปุ่ม home, ย้อนกลับ และ recent app เป็นแบบ on screen

ขอบด้านบนเป็นตำแหน่งของช่องเสียบหูฟัง 3.5mm., ด้านล่างเป็นพอร์ท USB Type-C กับลำโพงเสียง

ขอบด้านซ้ายเป็นถาดใส่ซิมแบบคู่ และยังรองรับ Nano SD card, ส่วนขอบตัวเครื่องด้านขวาเป็นปุ่มปรับระดับเสียงกับปุ่มพาวเวอร์

กล้องถ่ายภาพ

การถ่ายภาพยังเป็นจุดเด่นของ Mate 20 ซึ่งครั้งนี้ Huawei ใส่กล้องหลังมา 3 ตัว พร้อมจัดเรียงและแฟลชเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสที่ไม่เหมือนใคร

Huawei ระบุว่าการจัดวางกล้องหลังในลักษณะนี้แบบ Porsche Headlight Design ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากไฟหน้าของรถ Porsche รุ่น 919 ทั้ง 3 กล้องประกอบไปด้วยเลนส์ต่างๆ คือ

  • เลนส์ถ่ายมุมกว้างพิเศษ Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, f/2.2
  • เลนส์มุมกว้างปกติ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, f/1.8
  • เลนส์ซูม 2 เท่า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, f/2.4

การใช้ทั้ง 3 เลนส์เพื่อภาพที่มีความแตกต่างกันนั้นสามารถทำได้ง่าย โดยใน UI กล้องจะมีตัวเลขกำกับในขณะที่เราเปิดกล้องไว้ โดยเลข 1x หมายถึง ถ่ายภาพมุมปกติ, 2x ซูมสองเท่า และ 0.6x ถ่ายแบบมุมกว้าง เราสามารถกดเพื่อปรับเปลี่ยนการถ่ายในแบบที่ต้องการได้อย่างสะดวก ซึ่งการมีเลนส์มุมกว้างพิเศษเพิ่มเข้ามาช่วยเก็บบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวได้แบบครบอยู่ในภาพเดียว ใครที่ชอบถ่ายภาพแบบ landscape อยู่ด้วยแล้วก็น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีได้

AI ยังเป็นตัวช่วยสำหรับถ่ายภาพเช่นเคยและมีการพัฒนาความสามารถเพื่อการแยกแยะประเภทของวัตถุ, คน, สัตว์, สภาพแสงต่างๆ พร้อมปรับแสงสีให้มีความคมชัดมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในโหมดที่เพิ่มเข้ามา คือ ซุปเปอร์มาโคร การถ่ายภาพวัตถุในระยะใกล้ที่มีระยะห่างจากวัตถุเพียงแค่ 2.5 ซม. โดยโหมดนี้จะทำให้เราสามารถเห็นรายละเอียดของวัตถุที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่การถ่ายในลักษณะนี้อาจต้องอาศัยการถือสมาร์ทโฟนที่นิ่งพอสมควร มิเช่นนั้นอาจทำให้ภาพที่ออกมาเบลอได้

อีกหนึ่งความฉลาดของ AI ที่ผู้เขียนหยิบยกมาเล่าครั้งนี้ เป็นตัวอย่างของการถ่ายภาพท้องฟ้า นอกจาก AI จะสามารถระบุสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้แล้ว ยังมีเมนูแสดงขึ้นมาอัตโนมัติให้เราเลือกใช้ได้ว่าต้องการถ่ายภาพมาตรฐาน หรือถ่ายมุมกว้าง

ขณะที่โหมดถ่ายภาพบุคคลผ่านกล้องหลังมีเมนูละลายฉากเพิ่มเข้ามาใหม่ เป็นตัวเลือกที่ให้เราสามารถเลือกฉากหลังละลายในแบบต่างๆ อาทิ ละลายเป็นรูปวงกลม หรือรูปหัวใจ เป็นต้น

นอกจากนี้ UI ของกล้องหลังใน Mate 20 รอบนี้ยังเพิ่มเมนูใหม่ที่มุมบนด้านซ้าย โดยภายในเมนูนี้จะมีเมนูย่อยอีก 4 เมนู ได้แก่ สแกนคิวอาร์โค้ด, การแปลภาษา, การสแกนวัตถุที่อยู่ตรงหน้าเพื่อสำรวจราคาของสินค้าชิ้นนั้นหรือที่มีความใกล้เคียง และการสแกนอาหารเพื่อแสดงปริมาณแคลอรี่ได้แบบเรียลไทม์

สำหรับการถ่ายวีดีโอจากกล้องหลังสามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ 4K UHD ซึ่งรอบนี้มี AI สำหรับช่วยถ่ายวีดีโอด้วย โดยใน UI จะมีเมนูให้เลือกประเภทของเฉดสีที่เราต้องการในขณะถ่ายวีดีโอ ตัวอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนได้ทดลองใช้ คือ สี AI เมนูนี้จะเป็นการโฟกัสไปที่ตัวแบบที่เราต้องการเป็นหลัก พร้อมแสดงสีที่ตัวแบบเพียงอย่างเดียว ส่วนฉากหลังก็จะถูกปรับให้เป็นสีขาวดำได้แบบเรียลไทม์

ตัวอย่างภาพถ่าย ไม่มีการปรับแต่งใดๆ เพียงลดขนาดภาพลงมาเท่านั้น

เลนส์มุมปกติ

เลนส์มุมกว้าง

ซุปเปอร์มาโคร

การใช้งาน

Mate 20 มากับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Kirin 980 ที่ Huawei เป็นผู้พัฒนาขึ้น มากับแรม 6GB, รอม 128GB เป็นความจุสำหรับเก็บข้อมูลที่เยอะพอสมควร ซึ่งในมุมมองของผู้เขียนเชื่อว่าใครที่เน้นใช้สมาร์ทโฟนถ่ายรูปเยอะๆ น่าจะหมดกังวลเรื่องพื้นที่เต็มเร็วได้

ส่วนการใช้งานทั่วไปถือว่าเป็นไปอย่างลื่นไหล ทั้งการเลื่อนฟีดเร็วๆ ใน Facebook, การทดสอบเล่นเกม PUBG ทำได้อย่างไม่มีสะดุดและเครื่องไม่ร้อนเร็วด้วย

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ใน Mate 20 ให้มา 4000 mAh เท่ากับ Mate 10 Pro เท่าที่ลองใช้งานดูพบว่าเพียงพอต่อการใช้งาน 1 วันได้แบบสบายๆ มีระบบ Huawei Super Charge มาด้วย หากแบตเหลือน้อยหรือหมดก็สามารถใช้ชาร์จให้เต็มได้ในเวลาอันรวดเร็ว

สรุป

Huawei Mate 20 จุดขายสำคัญที่ผู้เขียนยกให้เป็นพระเอกคือ กล้องถ่ายภาพ เรียกได้ว่าใช้งานง่าย ครบเครื่องในการถ่ายภาพ ผสานกับความฉลาดของ AI ที่ช่วยปรับแสงสีของภาพประเภทต่างๆ ให้ออกมาคมชัด แถมมีเลนส์มุมกว้างเพิ่มเข้ามาเลือกใช้ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบถ่ายภาพแบบ landscape

ส่วนฝาหลังที่มีการปรับเปลี่ยนวัสดุทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ยากขึ้น กระชับมือในระหว่างหยิบถือ ไม่ลื่นง่าย ส่วนรอยแหว่งรูปหยดน้ำ หากใครที่เห็นแล้วรู้สึกขัดใจก็สามารถเข้าไปที่เมนูการตั้งค่าการแสดงผลเพื่อซ่อนรอยได้

Blognone Jobs Premium