ไมโครซอฟท์ร่วมกับ Intel และ Techaisle บริษัทวิจัยตลาดไอทีในกลุ่ม SMB (Small/Medium Business) เผยงานวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบและค่าใช้จ่ายในการใช้งานพีซีที่มีอายุมากกว่า 4 ปีของ SMB ว่ามีค่าใช้จ่ายมากกว่าการซื้อเครื่องใหม่ ไม่รวมผลกระทบด้านความปลอดภัยที่จะตามมาด้วย
งานวิจัยนี้สำรวจจากบริษัท SMB กว่า 2,156 บริษัทใน 5 ประเทศได้แก่ออสเตรเลีย, อินเดีย, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้และญี่ปุ่น และพบว่าต้นทุนในการใช้งานพีซีที่มีอายุ 4 ปีขึ้นไปอยู่ที่ราวว 2,736 เหรียญต่อเครื่อง (ราว 90,000 บาท) ซึ่งสูงกว่าการซื้อเครื่องใหม่ 2-3 เท่า โดยต้นทุนเหล่านี้มาจากการคำนวนค่าซ่อม ค่าบำรุงรักษาและค่าเสียโอกาสในการทำงาน (lost productivity cost) รวมกัน
ขณะเดียวกันอายุเฉลี่ยในการเปลี่ยนพีซีของ SMB อยู่ที่ราว 5 ปี โดยกว่า 70% ของ SMB ที่ทำแบบสำรวจระบุว่ามีพีซีอายุมากกว่า 4 ปี และ 85% ของ SMB ขนาดใหญ่ (พนักงานเกิน 500 คน) มีพีซีเก่ากว่า 5 ปีด้วยซ้ำไป
Anurag Agrawal ซีอีโอและนักวิเคราะห์ของ Techaisle ระบุว่าปัจจัยสำคัญที่ SMB ไม่ยอมเปลี่ยนพีซีเครื่องใหม่คือกลัวซอฟต์แวร์ใช้งานไม่ได้บนระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่และไม่มีงบประมาณเพียงพอ โดยเจ้าของบริษัทมักมองที่ต้นทุนในระยะสั้น แทนที่จะมองต้นทุนในการซ่อมและบำรุงรักษาพีซีในระยะยาวว่ามากกว่าการซื้อเครื่องใหม่ พร้อมแนะนำว่าให้องค์กรต่างๆ เปลี่ยนมุมมองต่อการใช้งานพีซีเก่าๆ เสียใหม่ เพราะในระยะยาวมีประโยชน์ทั้งในแง่ต้นทุนและความปลอดภัยจากการใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ด้วย