Business Insider ออกรายงานพิเศษโดยอ้างแหล่งข่าวภายใน เกี่ยวกับการเจรจาระหว่างแอปเปิล กับ Leap Motion บริษัทผู้พัฒนาด้าน VR, AR และอุปกรณ์สั่งงานคอมพิวเตอร์ด้วยการตรวจจับความเคลื่อนไหวของมือ โดยแอปเปิลต้องการซื้อกิจการทั้งหมด แต่ดีลนี้ก็ไม่เกิดขึ้นและกลายเป็นปัญหากับ Leap Motion เอง
โดยแอปเปิลได้เจรจาขอซื้อกิจการ Leap Motion ครั้งแรกในปี 2013 แต่การพูดคุยกันครั้งแรกนั้นไม่ค่อยสวยงามนัก เนื่องจาก David Holz หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Leap Motion ที่เวลานั้นอายุ 24 ปี เขาแสดงท่าทีไม่ยอมรับแอปเปิล โดยบอกกับตัวแทนที่มาเจรจาว่า แอปเปิลเป็นบริษัทที่ไม่มีนวัตกรรมแล้ว, เทคโนโลยีที่มีอยู่ก็แย่ จากนั้นก็ชื่นชม Android ว่าดีกว่า iOS อย่างไรบ้าง พร้อมปิดท้ายว่าแอปเปิลนั้นเป็นบริษัท devil
Leap Motion ในเวลานั้นถือเป็นสตาร์ทอัพดาวรุ่งมาแรง มูลค่ากิจการก็สูงกว่า 300 ล้านดอลลาร์ หรืออาจแตะถึง 1,000 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
ถึงแม้ท่าทีผู้ก่อตั้งจะปฏิเสธแอปเปิลชัดเจน แต่แอปเปิลก็ยังสนใจซื้อกิจการอยู่ดี โดยสิ่งที่แอปเปิลต้องการคือเทคโนโลยี AR และฮาร์ดแวร์ ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญ แต่แม้ไม่มีความคืบหน้า แอปเปิลก็ได้ซื้อตัวพนักงานจาก Leap Motion มาทำโครงการ AR ให้อยู่หลายคน
เวลาผ่านไป 5 ปี ก็มีรายงานว่าแอปเปิลได้เจรจาขอซื้อกิจการ Leap Motion อีกครั้งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ด้วยมูลค่ากิจการที่ลดลงไปมาก เหลือราว 30-50 ล้านดอลลาร์ ดีลเหมือนจะบรรลุ มีการเตรียมจัดการแถลงข่าว แต่ดีลนี้ก็ล้มในนาทีสุดท้าย เนื่องจากผู้ก่อตั้งรู้สึกว่าบริษัทมีมูลค่ามากกว่าที่แอปเปิลเสนอ
คนในอุตสาหกรรมให้ความเห็นว่า Leap Motion อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ผลิตภัณฑ์ไม่สามารถออกขายในจำนวนที่มากพอ แม้บริษัทจะมีสิทธิบัตร AR/VR อยู่มาก แต่บริษัทก็ประสบปัญหาการเงิน การเพิ่มทุนรอบล่าสุดก็ได้เงินน้อยกว่าที่ตกลง เนื่องจากไม่สามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ดีลแอปเปิลนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่เมื่อบริษัทเลือกปฏิเสธอีกครั้ง ทางออกของ Leap Motion ต่อจากนี้ก็อาจเหลือไม่มากนัก
ที่มา: Business Insider ผ่าน MacRumors