Zuckerberg สรุปผลงานตัวเองปี 2018 บอกภูมิใจที่เห็นการแก้ปัญหา Facebook คืบหน้า

by mk
29 December 2018 - 06:40

Mark Zuckerberg เคยตั้งเป้าหมายประจำปี 2018 ว่าต้องการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของ Facebook ล่าสุดเขาเขียนสรุปผลงานของตัวเองตลอดทั้งปี 2018 ว่าคืบหน้าไปมาก และเขาภูมิใจกับผลงานเหล่านี้

เขาบอกว่าในฐานะบริษัท Facebook ปี 2018 แตกต่างจาก Facebook ในปี 2016 หรือแม้กระทั่งปี 2017 อยู่มาก เขาบอกว่าได้เปลี่ยนแปลง DNA ของบริษัทไปจากเดิม ให้หันมาโฟกัสด้านป้องกันภัยอันตรายของแพลตฟอร์มมากขึ้น ตอนนี้บริษัทมีคนมากกว่า 30,000 คนที่ทำงานด้านความปลอดภัย (safety)

Zuckerberg ยอมรับว่าการแก้ปัญหาเหล่านี้คงไม่จบภายในหนึ่งปี และคงไม่มีทางตรวจจับโพสต์ที่สร้างความเกลียดชังได้ทั้งหมด 100% แต่ Facebook ก็วางแผนการต่อเนื่องที่จะดำเนินไปอีกหลายปีเพื่อยกเครื่องระบบป้องกันให้ดีขึ้น เขายอมรับว่าที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้สนใจปัญหาเหล่านี้มากนัก แต่ตอนนี้บริษัทจะทำงานในเชิงรุกมากขึ้น

ภาพจาก Facebook

เขายังสรุปความคืบหน้าในงานด้านต่างๆ ของบริษัทตลอดปี 2018 ดังนี้

  • ป้องกันการแทรกแซงการเลือกตั้ง เพิ่มระบบตรวจสอบบัญชีปลอม, ลบบัญชีปลอมก่อนที่จะเผยแพร่ข้อมูล, ร่วมมือกับหน่วยงานทั่วโลกด้านการตรวจสอบข้อมูลปลอม (fact-checker), กำหนดมาตรฐานการโฆษณาทางการเมืองให้โปร่งใสมากขึ้น
  • ป้องกันเนื้อหาที่สร้างความเกลียดชัง สร้างระบบ AI ที่คอยตรวจสอบและลบเนื้อหาด้านการก่อการ้าย-ความเกลียดชังให้ได้ก่อนที่จะมีคนเห็น ซึ่งสามารถตรวจสอบเนื้อหาด้านก่อการร้ายได้ 99%, ปรับอัลกอริทึม News Feed ให้แสดงข้อมูลจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้มากขึ้น, ปรับอัลกอริทึมลดโอกาสที่จะเห็นเนื้อหาหมิ่นเหม่, เพิ่มจำนวนคนรีวิวเนื้อหาเป็น 3 เท่าเพื่อตรวจสอบกรณีที่ซับซ้อนจน AI ไม่สามารถฟันธงได้, เพิ่มระบบอุทธรณ์หาก Facebook ตัดสินใจแบนเนื้อหาผิดพลาด
  • ยกระดับให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลของตัวเองได้ดีกว่าเดิม ปรับปรุงแพลตฟอร์มให้แอพภายนอกเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ได้น้อยลง เพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบ Cambridge Analytica ไม่ให้เกิดซ้ำ, เพิ่มตัวเลือกช่วยทำตามกฎระเบียบ GDPR, ลดการใช้ข้อมูลของบริษัทภายนอกในระบบโฆษณาของ Facebook, เริ่มพัฒนาระบบ Clear History เพื่อให้คนลบข้อมูลของตัวเองได้ (ฟีเจอร์นี้สัญญาว่าจะทำแต่ยังไม่ได้ทำ)
  • ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งาน กระตุ้นให้คนสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันมากขึ้น และลดการใช้งานในเชิงเสพเนื้อหาไปเรื่อยๆ เพียงอย่างเดียว เช่น ลดโอกาสแสดงผลวิดีโอไวรัลลงได้ 50 ล้านชั่วโมงต่อสัปดาห์, Facebook บอกว่านโยบายนี้ทำให้อัตรา engagement และรายได้ลดลงในระยะสั้น แต่บริษัทคาดว่าจะเป็นผลดีในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม โพสต์ของ Mark Zuckerberg ก็ถูกวิจารณ์ว่าพูดถึงแต่เรื่องดีๆ โดยละเลยประเด็นที่ Facebook ถูกโจมตีหนักๆ เช่น กรณีในพม่าที่ก่อให้เกิดการเข่นฆ่ากัน, พนักงานสัญญาจ้างของ Facebook ที่ทำหน้าที่เซ็นเซอร์เนื้อหา โดยงานหนัก เงินน้อย และไม่ได้รับการเหลียวแลจากบริษัทมากนัก, หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัย Alex Stramos ที่ลาออกไปเพราะขัดแย้งกับผู้บริหารเรื่องรัสเซีย ยังไม่สามารถหาใครมาแทนได้ และในโพสต์ของ Zuckerberg มีแต่คำว่า "ภูมิใจ" (proud) แต่ไม่มีคำขอโทษต่อปัญหาเหล่านี้เลยสักคำเดียว

ที่มา - Mark Zuckerberg, TechCrunch

Blognone Jobs Premium