ปักกิ่งเริ่มนำระบบจำแนกใบหน้ามาใช้งานกับกลอนประตูอัจฉริยะในการเคหะ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้งานแล้วกว่า 47 โครงการ และมีแผนจะใช้งานให้ได้ครบทุกโครงการภายในกลางปีนี้
การนำระบบจำแนกใบหน้ามาใช้ในบ้านของการเคหะ นอกจากเพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยของชุมชนแล้ว ทางการเคหะมีจุดประสงค์หลักอีกข้อคือเพื่อป้องกันการใช้ทรัพย์สินการเคหะผิดวัตถุประสงค์ อย่างเช่นนำไปปล่อยเช่าต่ออย่างผิดกฎหมาย เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านจากการเคหะจะไปถึงประชาชนที่มีความต้องการจริง ๆ
จากข้อมูลเมื่อเดือนมีนาคม 2018 ระบุว่าปักกิ่งมีโครงการเคหะที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อยทั้งหมด 76 โครงการ มีบ้านให้เช่ากว่า 1 แสนยูนิต ซึ่งค่าเช่าของบ้านการเคหะในปักกิ่งอยู่ที่ราว 2 พันหยวนต่อเดือน ถูกกว่าห้องเช่าในปักกิ่งทั่วไปที่คิดราคาเฉลี่ยราว 5 พันหยวนต่อเดือนอยู่มาก ทำให้มีช่องว่างในการใช้งานการเคหะแบบผิดวัตถุประสงค์ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางการปักกิ่งต้องการปราบปราม โดยถ้าพบการใช้งานการเคหะผิดวัตถุประสงค์ในครอบครัวไหน ก็จะถูกบันทึกไว้ในระบบเครดิตแห่งชาติ และถูกตัดสิทธิ์ในการเคหะเพื่อผู้มีรายได้น้อยไป 5 ปี
นอกจากนี้ ระบบจำแนกใบหน้ายังใช้เพื่อใช้ดูแลผู้สูงอายุได้ด้วย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียว เพราะหากไม่มีการเข้าออกเป็นระยะเวลาหนึ่ง ระบบก็จะแจ้งเตือนไปยังผู้ดูแลให้เข้าไปตรวจสอบ
ที่มา - South China Morning Post