Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ออกรายงานต่อนักลงทุนวันนี้ โดยปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลการดำเนินงานประจำไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2018 จากที่ประเมินว่าจะมียอดราว 89,000-93,000 ล้านดอลลาร์ เป็น 84,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนรายการอื่นเช่น อัตรากำไร และค่าใช้จ่าย ตัวเลขยังคงใกล้เคียงกับข้อมูลเดิม
แอปเปิลระบุว่ามีหลายปัจจัยที่กระทบต่อรายได้ซึ่งทำให้น้อยกว่าที่เคยคาดไว้ เช่น จังหวะเวลาการออกสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ต่างจากปีก่อน (XS เริ่มขายกันยายน ขณะที่ปีก่อน iPhone X เริ่มขายธันวาคม), เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น, ปัญหาซัพพลายในการผลิตทำให้ Apple Watch Series 4 และ iPad Pro มีจำหน่ายไม่ทันความต้องการ
นอกจากนี้แอปเปิลบอกมีอีก 2 ประเด็นใหญ่ที่กระทบต่อยอดขายรวม นั่นคือตลาดจีน ซึ่งมาจากเศรษฐกิจในประเทศและปัญหาการค้าสหรัฐ-จีน และสุดท้ายคือยอดขาย iPhone เอง ซึ่งแอปเปิลระบุว่าลดลงทั้งในตลาดจีนและตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ขณะที่ตลาดสำคัญอื่น อัตราการอัพเกรด iPhone เป็นรุ่นใหม่ก็ไม่ดีอย่างที่บริษัทประเมินไว้ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามแม้ภาพรวมจะไม่ดี แต่ก็ยังมีหลายส่วนที่ทำสถิติใหม่สูงสุด เช่น จำนวนรวมอุปกรณ์ iOS ที่เปิดใช้งาน, รายได้กลุ่ม Services, รายได้กลุ่มอุปกรณ์สวมใส่ (Apple Watch และ AirPods) นอกจากนี้หลายประเทศก็ยังคงมียอดขายเพิ่มขึ้น เช่น อเมริกา, แคนาดา, สเปน, เกาหลี, เม็กซิโก, มาเลเซีย, เวียดนาม
ราคาหุ้นแอปเปิลปรับลดลงในช่วงนอกเวลาทำการซื้อขายของตลาดราว 7% หลังรายงานนี้เผยแพร่ออกมา