ย้อนกลับไปช่วงเดือนกันยายนปี 2018 IBM ถูกฟ้องข้อหาปฏิบัติไม่เท่าเทียม กีดกันและไล่ออกแต่พนักงานอายุมาก ล่าสุดมีรายงานจากคำพูดของ Catherine Rodgers อดีตผู้บริหารตำแหน่งสูงใน IBM บอกว่าเธอถูกบริษัทสั่งให้โกหกรัฐบาลเรื่องพนักงานอายุมากถูกปลด และเธอก็ถูกปลดหลังจากที่เธอชี้ว่าเรื่องนี้มันผิดกฎหมายปฏิบัติไม่เท่าเทียม
Rodgers เล่าย้อนไปยังเดือนเมษายน 2017 ว่ามีพนักงานสองคนที่อายุมากกว่า 50 ปี และถูกรวมอยู่ในลิสต์การเลิกจ้างได้ยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือทางการเงินที่ให้การสนับสนุนสำหรับคนว่างงาน โดยกระทรวงแรงงานส่งแบบฟอร์มให้ Rodgers กรอกเพื่อระบุว่าพนักงานทั้งหมดในกลุ่มที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งในช่วงสามปีที่ผ่านมา มีอายุเท่าไร
Rodgers เล่าต่อว่า กลุ่มพนักงานที่เธอดูแลและถูกปลดอายุมากกว่า 50 ปีทุกคน เธอจึงระบุไปตามความจริง และเมื่อนำแบบฟอร์มไปตรวจสอบกับฝ่าย HR ปรากฏว่า Rodgers ถูกสั่งให้ลบข้อมูลในแบบฟอร์มทั้งหมด เหลือไว้เพียงชื่อเดียวก่อนจะส่งแบบฟอร์มไปที่กรมแรงงาน
Rodgers ยังเล่าด้วยว่า IBM มีกลวิธีในการบีบให้พนักงานอายุมากลาออก เช่นบังคับให้เข้าออฟฟิศทุกวัน ทั้งที่บริษัทก็สนับสนุนแนวทางการทำงานที่บ้าน และพนักงานอายุมากก็มีแนวโน้มเจอกับการถูกย้ายไปยังสำนักงานสาขาต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ ซึ่งมีคนน้อยมากที่เลือกทำเช่นนั้น เป็นการบังคับกลายๆ ให้พวกเขายอมรับการเกษียณตัวเอง
อย่างไรก็ตามเนื่องจาก Rodgers ยังไม่ได้ยื่นข้อเรียกร้องทางกฎหมายกับ IBM เธอจึงไม่ได้ให้หลักฐานเพื่อสนับสนุนข้อกล่าวหาของเธอซึ่งปกติแล้วจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมีการยื่นฟ้องต่อศาลทำให้คำให้การของเธอเป็นเพียงคำแถลงที่ส่งมาในคดีที่มีการฟ้องเพิ่มเติมเมื่อวันพฤหัสที่ 17 มกราคม 2019
ที่มา - The Register