การใช้เซิร์ฟเวอร์คลาวด์กลายเป็นเรื่องปกติในทุกวันนี้ ที่ทีมงานพัฒนาแอปพลิเคชั่นไม่ต้องประมาณการขนาดของเซิร์ฟเวอร์ล่วงหน้า แต่สามารถปรับย่อขยายทรัพยากรในเครื่องได้อย่างรวดเร็วให้พอดีกับโหลดที่เกิดขึ้นจริงเมื่อต้องใช้งาน แม้ฟีเจอร์เช่นนี้จะเป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับผู้ให้บริการคลาวด์ต่างประเทศ แต่ผู้ใช้บริการเหล่านั้นล้วนตั้งอยู่นอกประเทศไทย แม้เซิร์ฟเวอร์ในสิงคโปร์ที่ใกล้ที่สุด การใช้งานโดยทั่วไปก็มักมีเวลาหน่วง (latency) เกินกว่า 30ms กลายเป็นข้อจำกัดสำหรับงานที่ต้องการความเร็วสูง
ขณะที่ผู้ให้บริการในไทยแม้จะระบุว่าเป็นคลาวด์แต่ก็มักต้องอาศัยการประสานงานกับทีมซัพพอร์ตเพื่อเปิดเครื่องใหม่, ขยายทรัพยากร, รวมถึงการคิดค่าบริการที่หลายครั้งไม่ได้คิดตามปริมาณการใช้งานจริงรายชั่วโมง
บริการ DevOps Cloud by Cloud HM เป็นบริการคลาวด์ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถสร้างเซิร์ฟเวอร์ในไทย ผ่านระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ หลังคอนฟิกและสั่งเซิร์ฟเวอร์จะได้เครื่องมาใช้งานในเวลาไม่กี่นาที
การเริ่มใช้งาน DevOps Cloud นั้นเริ่มจากการเปิดบัญชีกับเว็บ cloudhm.co.th ก่อน โดยกรอกข้อมูลส่วนตัวและตั้งรหัสผ่าน เหมือนกับการสมัครเว็บอีคอมเมิร์ชทั่วไป แต่เมื่อล็อกอินเข้ามาแล้ว เราจะยังไม่มีเงินในบัญชี โดยบริการ DevOps Cloud มีให้เลือกทั้งการจ่ายเงินค่าบริการล่วงหน้า และให้ระบบหักเครดิตไปตามการใช้งาน หรือจ่ายตามใบแจ้งหนี้รายสัปดาห์
ช่องทางการจ่ายเงินมีหลากหลาย ทั้งบัตรเครดิต, โอนเงินผ่านบัญชี, หรือแม้แต่บิตคอยน์ โดยช่วงนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ โอนเงินเท่าใดก็ตามจะได้รับเครดิตมาสองเท่าตัว
เมื่อโอนเงินแล้วก็สามารถสั่งบริการ Cloud Server และเข้าไปยังคอนโซลควบคุมคลาวด์ที่ https://devops.cloudhm.co.th/ หน้าจอนี้จะเป็นหน้าจอหลักสำหรับการควบคุมเปิด-ปิดเซิร์ฟเวอร์ โดยมีสองแบบคือ Virtual Servers ที่เป็น VM แบบปกติ และ Container Servers ที่เป็น CoreOS เน้นการใช้งานกับ docker โดยความพิเศษของ Container Servers คือรองรับการตั้งค่าผ่าน Cloud-Config ของ CoreOS ได้ในตัว
สำหรับ Virtual Servers ปกตินั้น มีระบบปฎิบัติการหลักๆ ให้เลือกครบถ้วน ทั้ง Ubuntu, Debian, CentOS, FreeBSD, หรือแม้แต่ Windows Server ทั้ง 2008, 2012, และ 2016
การปรับขนาดเครื่องสามารถปรับแยกกันได้ทั้งหมด ทั้งปริมาณซีพียู, แรม, ดิสก์, และความเร็วเน็ตเวิร์ค เช่น ซีพียูมีราคา 20 สตางค์ต่อคอร์ต่อชั่วโมง เพิ่มได้สูงสุด 29 คอร์ แรม 29 สตางค์ต่อกิกะไบต์ต่อชั่วโมง เพิ่มได้สูงสุด 100 กิกะไบต์ ราคานี้รวมค่าไอพีไว้แล้ว โดยคิดค่าบริการเฉพาะค่าสตอเรจเท่านั้น
เซิร์ฟเวอร์ที่ได้เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในไทย จากการลองใช้งานก็จะพบว่า ping time จากอินเทอร์เน็ตบ้านทั่วๆ ไป ต่ำกว่า 10ms แทบเสมอ การใช้งานที่ต้องการการตอบสนองเร็วอย่างเซิร์ฟเวอร์เกม หรือบริการค้าหลักทรัพย์ก็น่าจะได้เปรียบเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศค่อนข้างมาก
อีกฟีเจอร์สำคัญของ DevOps Cloud คือความสามารถในการขยายและหดเครื่องได้เองตามการใช้งาน โดยปัญหาสำคัญของเซิร์ฟเวอร์กลุ่มหนึ่งคือเครื่องมีปัญหาเพราะดิสก์เต็ม หรือหน่วยความจำเต็มจนเครื่องหน่วง หากใช้ Virtual Servers บน DevOps Cloud จะสามารถตั้งค่า Autoscaling โดยปรับทั้งแรม, ซีพียู, และดิสก์ได้
เมนูการปรับก็ตรงไปตรงมา คือการสร้างเงื่อนไขว่าหากทรัพยากรใช้งานเกิน % ที่ตั้งไว้ในช่วงเวลา ให้ขยายออกไป เช่น หากดิสก์เกิน 80% ก็สามารถตั้งให้เพิ่มขนาดดิสก์ได้ทันที และหากต้องการลดค่าใช้จ่ายเมื่อใช้ทรัพยากรน้อยก็สามารถวางเงื่อนไขให้ลดขนาดดิสก์, ซีพียูหรือแรมกลับมาได้ด้วย
ฟีเจอร์นี้ไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่ม block device เข้ามายังเซิร์ฟเวอร์เปล่าๆ เท่านั้น แต่ระบบ Autoscale จะเพิ่มดิสก์และขยายขนาดระบบไฟล์ให้เองทันที เช่นเมื่อใช้ Ubuntu 18.04 กับระบบไฟล์ ext4 เมื่อ Autoscale ทำงาน ดิสก์ vda1 ที่ mount ไว้ที่ / ก็จะขยายขึ้นมาเอง ข้อควรระวังคือระหว่างที่ระบบทำงาน ตัวเซิร์ฟเวอร์จะดาวน์ไประยะเวลาหนึ่ง การตั้งช่วงเวลาที่มอนิเตอร์จึงไม่ควรสั้นเกินไปนัก เพราะอาจจะทำให้เซิร์ฟเวอร์บูตบ่อยเกินไป
สำหรับการใช้งานเว็บขนาดใหญ่ DevOps Cloud มีตัวเลือก Load Balancer ที่คอยมอนิเตอร์การใช้ซีพียู หากสูงเกินไปก็สามารถสร้างเซิร์ฟเวอร์มารับงานเพิ่มไปได้เรื่อยๆ ในรูปแบบเดียวกัน สำหรับการทำเว็บทางคลาวด์ก็ยังมีบริการ DNS แบบ global renundant ให้ใช้งานได้ฟรีอีกด้วย
ด้วยฟีเจอร์ทั้งหมด คงทำให้ DevOps Cloud เป็นตัวเลือกสำหรับการใช้งานทีต้องการความยืดหยุ่น งานที่ต้องการคลาวด์ในประเทศเพื่อใกล้ชิดกับผู้ใช้ให้มากที่สุดแต่ก็ยังต้องการความคล่องตัวเช่นเดียวกับคลาวด์ของผู้ให้บริการต่างประเทศ สนใจทดลองใช้งานสามารถเริ่มใช้ได้ที่ https://www.cloudhm.co.th/products/devops-cloud/ เติมเงินวันนี้เป็นต้นไป จะได้รับเครดิตสองเท่าจากเงินที่เติมไป