ในงานแถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของนินเทนโด ความสนใจอาจอยู่ที่ยอดขายของ Nintendo Switch ที่ดูจะไม่เข้าเป้าที่วางไว้เดิม 20 ล้านเครื่อง จนนินเทนโดต้องปรับลดเป้าลงมาเหลือที่ 17 ล้านเครื่องแทน
นินเทนโดอธิบายเหตุผลที่ขาย Switch ได้น้อยกว่าที่คาด ว่าเป็นเพราะช่วงเดือนเมษายน-กันยายน 2018 มีเกมใหญ่ๆ ออกไม่เยอะนัก ทำให้ยอดขายโตช้า ในขณะที่ช่วงปลายปีมีเกมใหญ่ถึง 3 เกมคือ Super Mario Party, Pokemon Let's Go, Super Smash Bros. Ultimate ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นมาก แต่ก็ไม่สามารถชดเชยช่วงที่ยอดขายโตช้าไปได้
ตัวเลขอีกตัวที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือยอดขายของ Nintendo 3DS (รวม 2DS และรุ่นย่อยทั้งหมด) ที่รอบ 9 เดือนล่าสุด (เม.ย.-ธ.ค. 2018) ขายได้เพียง 2.3 ล้านเครื่องเท่านั้น ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2017 ที่ขายได้ 5.86 ล้านเครื่อง หรือพูดง่ายๆ คือหายไปเกินครึ่งของปีก่อนหน้า แถมในจำนวนนี้ยังเป็น 2DS ซะเกือบทั้งหมดคือ 2DS รุ่นปกติ 0.8 ล้านเครื่อง และ 2DS XL 1.3 ล้านเครื่อง
Shintaro Furukawa ประธานนินเทนโดตอบคำถามนักลงทุนเรื่องนี้ ยอมรับว่ายอดขายของ 3DS ตกลงเร็วกว่าที่บริษัทคาดไว้ อย่างไรก็ตาม นินเทนโดยังยืนยันนโยบายเดิมที่ทำตลาดทั้ง Switch และ 3DS พร้อมกันเช่นเดิม โดยให้เหตุผลว่า 3DS มีขนาดเล็กกว่า พกพาสะดวกกว่า และราคาถูกกว่า จึงเหมาะกับการเป็นเครื่องเล่นเกมเครื่องแรกของเด็กๆ
ปัจจุบัน Nintendo 3DS มียอดขายรวมกันทั้งหมด 74.84 ล้านเครื่อง ส่วนยอดขายเกมพกพาของนินเทนโดที่สูงสุดตลอดกาลคือ Nintendo DS ทำไว้ 154 ล้านเครื่อง, ตามด้วย Game Boy 118.7 ล้านเครื่อง และ Game Boy Advance 81.5 ล้านเครื่อง
ตอนนี้นินเทนโดยังออกเกมของ 3DS อยู่บ้างแต่ไม่เยอะนัก ข้อมูลบนเว็บไซต์ของนินเทนโดเองระบุว่ามีเกมรอวางขายอีก 4 เกมเท่านั้น และมีเกมของนินเทนโดเองเพียงเกมเดียวคือ Kirby's Extra Epic Yarn
ที่มา - Nintendo, Ars Technica