สัมภาษณ์ DJ Koh ซีอีโอซัมซุง กับยุทธศาสตร์ใหม่ Galaxy A ได้ฟีเจอร์ใหม่ก่อนเรือธง

by mk
11 April 2019 - 14:24

DJ Koh ประธานธุรกิจโทรคมนาคมของซัมซุง ให้สัมภาษณ์ระหว่างการเดินทางมาเปิดตัว Galaxy A80 ที่ประเทศไทย ถึงสภาพการณ์ของตลาดสมาร์ทโฟนที่เปลี่ยนไป, การแข่งขันกับสมาร์ทโฟนแบรนด์จีน และทิศทางใหม่ของ Galaxy A Series ที่วางตลาดจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ด้วยการได้ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดก่อนรุ่นเรือธง (Galaxy S/Note) ซะอีก

ตลาดสมาร์ทโฟนอิ่มตัว โอกาสใหม่คือ 5G + AI

เขายอมรับว่าตลาดสมาร์ทโฟนอิ่มตัวแล้ว ยอดขายมือถือกลุ่มไฮเอนด์เริ่มตกลง แต่ก็มองว่าโอกาสของเทคโนโลยีใหม่อย่าง 5G และ AI จะช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ที่ไม่จำกัดแค่สมาร์ทโฟนแต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งซัมซุงก็เตรียมตัวเรื่อง 5G และ AI มานาน รวมถึงมีศูนย์วิจัยขนาดใหญ่ 7 แห่งทั่วโลกเพื่อการนี้

ส่วนแผนการออกมือถือ 5G นั้นจะอิงกับความพร้อมของเครือข่ายในแต่ละประเทศ โดยซัมซุงเพิ่งวางขาย Galaxy S10 5G ในเกาหลีใต้ ประเทศถัดไปคือสหรัฐอเมริกาช่วงประมาณเดือนพฤษภาคม และจะตามด้วยยุโรป ส่วนประเทศไทยคิดว่าน่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

ตลาดแข่งขันรุนแรง ยอมรับแบรนด์จีนแย่งตลาดไปมาก

DJ Koh ยังพูดถึงสภาพการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนที่รุนแรง โดยมือถือแบรนด์จีน หรือที่เรียกกันว่า "C-Brand" เติบโตรวดเร็ว เขาก็ยอมรับว่า C-Brand คือคู่แข่งของซัมซุง แต่ซัมซุงก็จะโฟกัสที่ผู้บริโภคเป็นหลัก หากฟีเจอร์ไหนที่ C-Brand ทำแล้วประสบความสำเร็จ ซัมซุงก็ยินดีเรียนรู้และนำมาใช้งาน

เขายังฝากถึงผู้บริโภคที่เคยใช้ซัมซุง แล้วย้ายไปใช้ C-Brand ว่าถ้าหากเป็นเพราะความผิดพลาดของซัมซุง ก็ต้องขอโทษแทนบริษัท เขาจะพยายามแก้ปัญหาและฟังลูกค้าให้มากขึ้น เขาหวังว่าซัมซุงเปรียบเหมือนอาหารหลักที่คนอาจกินแล้วเบื่อ เปลี่ยนไปกินอย่างอื่นชั่วครั้งชั่วคราว แต่เมื่อหายเบื่อแล้วจะกลับมาใหม่ในภายหลัง

Galaxy A จับตลาดคนรุ่นใหม่ ได้ฟีเจอร์ใหม่ก่อนเรือธง

Koh เดินทางมาประเทศไทยเพื่อเปิดตัว Galaxy A80 (โดยมีพรีเซนเตอร์คือวง Blackpink!) เขาย้ำถึงยุทธศาตร์ของ Galaxy A ที่เปลี่ยนไปจากปีก่อน ว่าเดิมที ยุทธศาสตร์ที่ซัมซุงใช้มาตลอดคือใส่ฟีเจอร์ใหม่ที่สุด ดีที่สุดให้กับมือถือเรือธง (Galaxy S/Note) แล้วค่อยขยับลงมาในรุ่นรองๆ อย่าง Galaxy A ซีรีส์

แต่ช่วงหลัง กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่ (Millennial/Gen Z) มีอัตราใช้สมาร์ทโฟนสูงมาก ใช้งานเยอะกว่าคนวัยผู้ใหญ่มาก แต่คนกลุ่มนี้มีงบไม่เยอะเท่า ไม่เพียงพอต่อการซื้อมือถือรุ่นเรือธง

ซัมซุงจึงต้องกลับวิธีคิดใหม่ หันมาโฟกัสกลุ่ม Gen Z ให้มากขึ้น โดยเลือกนำนวัตกรรมมาใช้กับ Galaxy A ก่อน ทำราคาให้เหมาะสมกับ Gen Z เอื้อมถึงได้ หากฟีเจอร์ไหนเอามาใช้งานแล้วได้รับการตอบรับ ก็ค่อยนำไปใช้กับมือถือเรือธง เขาพูดถึงกล้องหมุนของ Galaxy A80 ว่าคิดกันมานาน 5 ปี แต่กว่าเทคโนโลยีจะพร้อมต้องใช้เวลานานมาก และถ้าเวิร์คก็อาจเอามาใส่เรือธงด้วย

Koh ตอบคำถามในประเด็นว่า Galaxy A ซอยรุ่นย่อยเยอะเกินไปหรือไม่ (ปัจจุบันมี 6 รุ่นย่อยคือ A10, A20, A30, A50, A70, A80) ว่าแต่ละรุ่นมีช่วงราคา (price gap) ห่างกันประมาณ 50-70 ดอลลาร์อยู่แล้ว ซัมซุงต้องการให้สินค้ามีทุกระดับราคา ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม และคู่แข่งเองก็มีผลิตภัณฑ์ในช่วงราคาทุกระดับเหมือนกัน

สุดท้าย เขาบอกว่าตั้งใจมาเปิดตัว A80 ที่ประเทศไทย (แล้วไลฟ์สตรีมไปยังงานในอิตาลีและบราซิลพร้อมกัน) เพราะประเทศไทยถือเป็นตลาดหลักแห่งหนึ่งของซัมซุงอยู่แล้ว ซัมซุงจึงต้องการครองใจ Gen Z ในเมืองไทยให้ได้ เพื่อขยายต่อไปยัง Gen Z ทั่วเอเชียด้วย

Blognone Jobs Premium