Uber ได้ยื่นเอกสารไฟลิ่ง S-1 ซึ่งเป็นขั้นตอนก่อนนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นเรียบร้อยแล้ว ตามที่มีข่าวออกมาเมื่อต้นสัปดาห์ โดยหุ้นของ Uber จะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ใช้ตัวย่อในการซื้อขายคือ UBER
ก่อนหน้านี้ Uber เปิดเผยตัวเลขผลประกอบการมาโดยตลอดทุกไตรมาสให้กับนักลงทุน แต่เอกสารไฟลิ่ง S-1 นี้ ได้เปิดเผยข้อมูลทางการเงินแบบละเอียดหลายอย่างที่น่าสนใจ โดยในปี 2018 Uber มีรายได้ 11,270 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 42% และมีกำไรสุทธิ 997 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามตัว EBITDA นั้นขาดทุน 1,850 ล้านดอลลาร์ จึงน่าจะเป็นการกำไรทางบัญชี ส่วนจำนวนผู้ใช้งานแบบเป็นประจำทุกเดือนมี 91 ล้านบัญชี จำนวนทริปการเดินทางในไตรมาส 4/2018 มี 1,490 ล้านทริป
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน Uber ประกอบด้วย กองทุน SoftBank Vision (16.3%), กองทุน Benchmark (11%), ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอ Travis Kalanick (8.6%), กองทุนของ Garrett Camp ผู้ร่วมก่อตั้ง (6%), กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของประเทศซาอุดิอาระเบีย (5.3%) และ Alphabet บริษัทแม่กูเกิล (5.2%)
Uber ยังไม่ได้กำหนดราคาและจำนวนหุ้นไอพีโอที่จะเสนอขาย แต่คาดว่าจะเข้าตลาดหุ้นได้ในเดือนพฤษภาคม และมูลค่ากิจการอาจสูงกว่าแสนล้านดอลลาร์
ที่มา: CNBC