Donald Kersey ผู้อำนวยการการเลือกตั้งรัฐเวสต์เวอร์จิเนียระบุว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปจะใช้แอปพลิเคชั่นและบล็อคเชนในการเลือกตั้งนอกประเทศ หลังจากทดลองใช้งานมาแล้วในการเลือกครั้งกลางเทอมเมื่อปีที่แล้ว โดยจะใช้บริการของบริษัทสตาร์ตอัพ Voatz
Kersey ยอมรับว่าระบบไม่ได้สมบูรณ์และไม่ได้น่าเชื่อถือเต็มที่สำหรับการลงคะแนนเสียงทั่วไป แต่ปัญหาใหญ่ของการลงคะแนนนอกประเทศมีปัญหาใหญ่คือสัดส่วนผู้มาลงคะแนนนั้นต่ำมาก อยู่ที่ 7% เท่านั้นเทียบกับสัดส่วนการมาลงคะแนนในประเทศที่สูงกว่า 50% การใช้แอปลงคะแนนน่าจะช่วยให้ผู้มีสิทธิ์มาลงคะแนนกันได้ง่ายขึ้น
Voatz ระบุว่าข้อมูลการลงคะแนนเสียงเมื่อส่งขึ้นบล็อคเชนแล้วจะไม่สามารถผูกกับตัวตนผู้ลงคะแนนได้อีกต่อไป แต่ตัวผู้ลงคะแนนจะได้รับสำเนาใบลงคะแนนที่เซ็นลายเซ็นดิจิทัลทางอีเมลยืนยันว่าได้รับข้อมูลลงคะแนนแล้ว
การทดลองในการเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อปีที่แล้ว มีผู้ลงทะเบียนลงคะแนนเสียงออนไลน์ 183 คน มีจำนวนผู้ดาวน์โหลดแอป 160 คน มีผู้ล็อกอินสำเร็จและเข้าหน้าลงคะแนนเสียง 147 คน และมีคนลงคะแนน 144 คน
Voatz ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า ไม่ได้เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่น่าเชื่อถือ บางคนถึงกับเรียกว่าเป็น Theranos แห่งธุรกิจลงคะแนนเสียง เซิร์ฟเวอร์ของบริษัทบางตัวเปิดออกอินเทอร์เน็ตและมีซอฟต์แวร์เก่าติดตั้งอยู่ด้วย แต่ Kersey ยืนยันว่าระบบของ Voatz ดีกว่าระบบที่มีอยู่ทุกว้นนี้ที่บางรัฐอนุญาตให้ลงคะแนนเสียงนอกประเทศผ่านทางอีเมล, บางรัฐอนุญาตให้ลงคะแนนทางแฟกซ์ได้
ที่มา - MIT Technology Review, LongHash
แผนภาพกระบวนการลงคะแนนเสียงของ Voatz ในการลงคะแนนเสียงกลางเทอมเมื่อปี 2018 จากรายงานของรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย