ระบบตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐอเมริกาได้รับการออกแบบมาเพื่อติดตามผู้ที่เข้ามาในประเทศ แต่ล่าสุดเตรียมยกระดับใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าติดตามคนที่ออกนอกประเทศรวมถึงคนที่อยู่เกินระยะเวลาวีซ่าด้วย
โดยการทำงานของระบบคือ ผู้เดินทางถ่ายรูปสแกนใบหน้าก่อนจะขึ้นเครื่อง รูปเหล่านั้นก็จะใช่ระบุตัวตนควบคู่กับรูปในหนังสือเดินทางและวีซ่าเข้าสหรัฐฯ และถ้าข้อมูลไม่ตรงกันก็จะถูกหน่วยงานป้องกันชายแดนและศุลกากรสหรัฐฯหรือ CBP ตรวจสอบ โดย CBP ระบุว่าระบบจดจำใบหน้าจะสามารถสแกนผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ได้ 97% ภายใน 4 ปี
มีการทดสอบใช้ระบบจดจำใบหน้าตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ใน 15,000 เที่ยวบิน และสามารถระบุผู้ที่อยู่เกินวีซ่าได้ 7,000 คน ซึ่ง CBP ให้ตัวเลขคนที่อยู่เกินวีซ่าในปี 2018 ว่ามี 666,582 ราย
การใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าถูกวิพากษ์วิจารณ์มานานแล้วว่าสามารถถูกใช้เพื่อบุกรุกความเป็นส่วนตัวได้ ซึ่ง CBP บอกว่า ข้อมูลทั้งหมดเก็บแบบเข้ารหัส และจะถูกเก็บไว้เป็นระยะเวลาสั้นๆ
ที่มา - Quartz