ถัดจาก Android Studio 3.4 ที่เพิ่งออกตัวจริงหลังสงกรานต์ กูเกิลก็เปิดตัว Android Studio 3.5 Beta 1 ต่อเนื่องตามาทันทีในงาน Google I/O
ฟีเจอร์เด่นของ Android Studio 3.5 ที่ส่งผลกระทบต่อนักพัฒนาอย่างมาก คือการเปลี่ยนจากระบบคอมไพล์ด่วน Instant Run ตัวเดิม มาเป็นระบบใหม่ Apply Changes ที่มีความแตกต่างกันพอสมควร
Instant Run
เดิมที Instant Run เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้กระบวนการแก้โค้ด-คอมไพล์-รันทดสอบ ซึ่งเดิมทีใช้เวลานานกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ ใช้รยะเวลาน้อยลง นักพัฒนาสามารถรันแอพค้างไว้ในอีมูเลเตอร์ได้เลยโดยแอพยังมีสถานะ (state) แบบเดิม เทคนิคที่กูเกิลใช้คือ เขียนเนื้อในของไฟล์ APK ใหม่โดยแทรกคลาสที่มีการแก้ไขลงไปในไฟล์เดิม
ข้อจำกัดของเทคนิคนี้คือผลกระทบต่อความเร็วตอนคอมไพล์ และอาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้นระหว่างแอพที่รันอยู่และกระบวนการเขียนไฟล์ของ Instant Run
Apply Changes
รอบนี้กูเกิลจึงเปลี่ยนมาใช้ท่าใหม่คือ Apply Changes ที่ไม่ได้แก้เนื้อในของไฟล์ APK แล้ว แต่ใช้วิธีเปรียบเทียบว่าในฟล์ APK ตัวเดิม กับไฟล์ APK ที่คอมไพล์ใหม่มีอะไรแตกต่างกันบ้าง (เปรียบเทียบจากตารางไฟล์ ไม่ได้ทำ diff หรือดู delta ซึ่งใช้เวลานานและเปลืองทรัพยากร)
รายละเอียดอ่านได้จาก Android Studio Medium
ส่วนฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ ใน Android Studio 3.5 อยู่ภายใต้ Project Marble ซึ่งเป็นการปรับจุดเล็กๆ น้อยๆ ของ Android Studio ให้ทำงานดีขึ้น มีประสิทธิภาพดีขึ้น ตอบสนองเร็วขึ้น และมีบั๊กน้อยลง
นอกจากนี้ Android Studio 3.5 ยังสามารถรันบน Chrome OS ได้ตามที่สัญญาไว้ โดยต้องการ Chrome OS เวอร์ชัน 75 ขึ้นไป (Chromebook ต้องเป็นซีพียู x86 ด้วย) ใครที่อยากซื้อ Chromebook มาเขียนแอพ Android ก็สามารถทำได้แล้วอย่างเป็นทางการ
ที่มา - Android Developers, Android Studio Blog, Android Developers Blog