Core 10th Gen ของอินเทล จะใช้เลขรุ่น 4 หลักเหมือนเดิม ไม่ต้องเพิ่มหลักใหม่ ขึ้นต้นด้วย 10

วันนี้ อินเทลเปิดตัว 10th Gen Core หรือโค้ดเนม "Ice Lake" โดยให้ข้อมูลของสถาปัตยกรรมใหม่ Sunny Cove, จีพียูตัวใหม่ Gen11, กระบวนการผลิต 10 นาโนเมตร และฟีเจอร์ของตัวซีพียู (Thunderbolt 3 และ Wi-Fi 6) โดยไม่ให้รายละเอียดของรุ่นผลิตภัณฑ์ซีพียูเลย

ข้อมูลอย่างเป็นทางการของอินเทล บอกเพียงว่าซีพียูชุดแรกจะเป็นรหัส U (รุ่นกินไฟต่ำสำหรับโน้ตบุ๊ก) และรหัส Y (รุ่นกินไฟต่ำมาก), มีตั้งแต่ Core i3 จนถึง Core i7, จำนวนคอร์สูงสุด 4 คอร์ 8 เธร็ด, คล็อคสูงสุด 4.1GHz และโน้ตบุ๊กจะวางขายจริงช่วงปลายปี 2019

ส่วนข้อมูลบนเวทีแถลงข่าวก็บอกเพียงว่าจะมีรุ่นย่อย (SKU) ทั้งหมด 11 รุ่นเท่านั้น

ตอนนี้เราจึงไม่รู้ว่า Ice Lake ใช้รหัสตัวเลขอะไรบ้าง โดยเฉพาะประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าอินเทลนับเลขขึ้น Gen 10th แล้ว แต่ตัวเลขของ Gen 9th ก็ใกล้เต็มหลักหมื่นแล้ว (เลขสูงสุดตอนนี้คือ Core i9-9980) แล้วพอขึ้น Gen 10th อินเทลจะนับเลขรุ่นอย่างไร

ข้อมูลตรงนี้กลับมาจากพาร์ทเนอร์ของอินเทลคือ Dell ที่เปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ XPS 13 2-in-1 ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กตัวแรกที่มาพร้อมกับซีพียู Ice Lake-U โดยในสเปกของ XPS 13 2-in-1 ระบุข้อมูลของซีพียูว่ามีให้เลือก 3 รุ่นดังนี้

• Core i3-1005 (คล็อคสูงสุด 3.4GHz)
• Core i5-1035 (ควอดคอร์, คล็อคสูงสุด 3.4GHz)
• Core i7-1065 (ควอดคอร์, คล็อคสูงสุด 3.4GHz)

หากข้อมูลนี้ถูกต้อง เราจะเห็นว่าอินเทลยังใช้ระบบตัวเลข 4 หลักเหมือนเดิม แต่รีเซ็ตเลขรุ่น 2 หลักหน้ากลับมาเป็น "10" แทนการเพิ่มหลักใหม่เข้ามา จุดที่น่าสังเกตคือเลขตัวท้ายลงด้วย "5" ทั้งหมด ซึ่งค่อนข้างขัดกับแนวทางเดิมของอินเทลที่มักลงท้ายเลขรุ่นด้วยเลข "0" มาโดยตลอด

ต้องรอดูกันว่าข้อมูลตรงนี้ของ Dell จะถูกต้องแค่ไหนกันครับ

ที่มา - Intel, AnandTech

ข้อมูลอย่างเป็นทางการของอินเทล มีสเปกรวมๆ ของ Ice Lake-U แต่ไม่บอกว่ามีรุ่นอะไรบ้าง

เอกสารสเปกของ Dell XPS 13 2-in-1