แอปเปิลเปิดตัวระบบปฏิบัติการ iOS 13 สำหรับ iPhone และ iPod (เพราะ iPad ได้ iPadOS แยกไปแล้ว) โดยชูจุดขายสำหรับในครั้งนี้คือรูปโฉมใหม่ การปรับปรุงในแอปพื้นฐานของ iOS และเพิ่มความเป็นส่วนตัว ตลอดจนเน้นไปที่การทำงานที่เร็วขึ้น
ของใหม่สำคัญที่ประกาศมีดังนี้
- Dark Mode เป็นไปตามที่ลือกันมานาน โดย Dark Mode สามารถกำหนดการทำงานตามเวลาหรืออิงเวลาตะวันตกดินได้ รวมทั้งนักพัฒนาแอปภายนอกสามารถใช้ Dark Mode ได้เช่นกัน
- Photos มีระบบคัดเลือกภาพเด่นด้วย Machine Learning, ปรับปรุงเครื่องมือแก้ไขภาพถ่าย และเพิ่มเครื่องมือเหล่านั้นสำหรับแก้ไขวิดีโอ
- Sign In with Apple ระบบล็อกอินเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว (รายละเอียด)
- Maps ปรับข้อมูล การแสดงผล ตลอดจน Street View ที่ละเอียดและสวยงามขึ้น (ในไทยรอต่อไป)
นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงอื่นเพิ่มเติมได้แก่
- Reminders ปรับปรุงหน้าตาใหม่
- HomePod รองรับการแยกแยะเสียงที่แตกต่างของบุคคลในบ้าน
- AirPods สามารถให้ Siri อ่านข้อความได้เวลามีข้อความใหม่เข้ามา และเชื่อมต่อ AirPods 2 คู่ เข้ากับอุปกรณ์เดียวเพื่อฟังเพลงด้วยกันได้
- Messages Memoji ปรับแต่งได้ละเอียดขึ้น ทั้งหมวก ทรงผม จุดสังเกตบนใบหน้า
- คีย์บอร์ดพื้นฐานแบบ Swipe
- CarPlay ปรับปรุงหน้าตา Dashboard ใหม่
- แถบแสดงการปรับระดับเสียง ย้ายไปอยู่มุมด้านซ้ายของจอแทน จากเดิมที่แสดงผลกลางหน้าจอ
สุดท้ายแอปเปิลบอกว่า iOS 13 ทำงานเร็วมากขึ้นกว่า iOS 12 โดยยกตัวอย่างว่าการปลดล็อกด้วย FaceID ทำได้เร็วขึ้น 30% และการเปิดแอปทำได้เร็วขึ้น 2 เท่าตัว
iOS 13 เปิดให้ดาวน์โหลดทดสอบแล้วสำหรับนักพัฒนา ส่วนผู้ใช้ทั่วไปก็จะได้ใช้งานช่วงปลายปีเหมือนเดิม
ที่มา: แอปเปิล