มินิรีวิว: Microsoft Tag

by hisoft
17 March 2009 - 14:44

ต่อเนื่องจากที่มีการแนะนำ Microsoft Tag กันไปแล้ว ที่นี่

คราวนี้ผมจะมารีวิวให้ครับ แต่ด้วยความเป็นมือใหม่ (สนิท) เพิ่งสมัครสมาชิกมาเมื่อวาน (๑๖ มีนาคม ๒๕๕๒) ผิดถูกอย่างไรแนะนำด้วยนะครับ

แล้วก็ขออธิบายก่อนนะครับ บางส่วนผมไม่สามารถทำให้ละเอียดได้จริงๆ เนื่องจากตอนที่เขียนนี่ เปิดแต่ละหน้าได้ช้ามากๆ ครับ นึกจะเร็วก็เร็ว แต่ส่วนมากแล้วกดไม่ค่อยจะไป

เริ่มต้นด้วยการสร้าง Tag กันก่อน

เริ่มต้นให้เข้าไปที่ Microsoft Tag web site ได้ที่ http://tag.microsoft.com ครับ เข้าใช้งานด้วย Windows Live ID ถ้ายังไม่เคยเข้าใช้ Microsoft Tag เลย ต้อง Sign up ก่อนครับ ไม่เสียอะไร แค่ปุ่มสึกเพราะกด sign up ครั้งเดียว

หน้าถัดมาจะเป็นหน้าส่วนตัวของเราเองครับ จะเป็นหน้าที่เก็บข้อมูล Tag ที่เรามี (ถ้ามีน่ะนะครับ) โดยที่สามารถแก้ไข ลบ หรือ Render ขึ้นมาใหม่ได้ รวมทั้งบอกสถานะและ Type ของ Tag นั้นๆ ด้วย หากต้องการเปลี่ยน Category, Status หรือลบครั้งละหลายๆ ตัวแล้วสามารถทำได้โดยการเลือกกล่องด้านหน้าแล้วกด Action ครับ

เข้ามาในส่วนของการสร้างครับ โดยการกดปุ่ม Create a Tag สีน้ำเงินๆ เราจะถูกส่งมาส่วนของการสร้าง แล้วเราก็เลือก Category ก่อนเลย หลังจากนั้นก็เลือก Tag Type (เลือกก่อนทำอย่างอื่นนะครับ เพราะเลือกตัวนี้ปุ๊บ ตัวอื่นจะหายไป ต้องกรอกใหม่หมดเลย) โดยแบ่งออกเป็น ๔ ประเภทด้วยกัน คือ

  • URL เมื่อส่องแล้วเครื่องจะเปิด web นั้นๆ ให้ ดีกว่าให้นั่งพิมพ์เองในโทรศัพท์มากโขอยู่

  • Free Text ใช้บรรจุข้อความอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ เส้นทาง หรือกระทั่งคำแนะนำตัวก็ยังได้ ที่สำคัญคือรองรับภาษาไทยด้วย มีหลักฐานตามภาพ
  • vCard พิมพ์ลงบนนามบัตรได้เลยครับ พอสแกนแล้วมันจะถามว่าต้องการเพิ่มชื่อนี้ นามสกุลนี้ เข้าไว้ในรายชื่อไหม ถ้าตกลง ก็จะเข้าไปอยู่ในรายชื่อให้เลย สะดวกจริงๆ
  • Dialer สแกนแล้วจะเด้งมาถามว่าจะโทรไปที่ ... หรือไม่

หลังจากนั้นก็ใส่ข้อมูลตามต้องการครับ ใส่รหัสได้ด้วย แต่ที่จำเป็นคือเฉพาะที่มี * สีแดงอยู่ โดย Tag Title ที่ผมคิดน่าจะเอาไว้ให้เราแยกแยะว่าอะไรเป็นอะไรเท่านั้นนะ เพราะว่าไม่เห็นว่าเวลา scan จะมีขึ้นชื่อนี้ด้วย พอกรอกข้อมูลครบแล้ว กด Save ได้เลยครับ เราก็จะได้ Tag มาอยู่ในหน้า Manage Tag เป็นอันเรียบร้อย

เมื่อเราได้ Tag มาแล้ว เราก็ต้องทำการ Render ขึ้นมาครับ โดยการกดที่กล่องสี จะมีขึ้นมาให้เลือก Format, Size แล้วก็รูปแบบ ของภาพที่เราต้องการ แล้วกด Render ก็จะขึ้นมาให้เราบันทึกครับ เปิดดูจะมีหน้าตาประมาณนี้

ตัวอย่าง Microsoft Tag ครับ


Microsoft Tag นี้ Render มาขนาดสำหรับ 10 นิ้ว format XPS และรูปแบบเต็มครับ เลยมีอะไรโผล่มารกนิดหน่อย

ต่อด้วยการใช้งานโปรแกรมบนโทรศัพท์ (หรืออื่นๆ ที่รองรับ)

เปิดเว็บผ่านโทรศัพท์มือถือ (หรือจริงๆ แล้ว ผ่านคอมพิวเตอร์ก็ได้ครับแต่จะยุ่งยากในการติดตั้งมากกว่า) เพื่อดาวน์โหลดได้ที่ http://gettag.mobi Download page
จะกดเข้าไปตามรายชื่อผู้ผลิตก็ได้นะครับ หรือจะเลือกตามรายการแพลตฟอร์มด้านล่างก็ได้ ซึ่งเห็นรายการเยอะๆ นี่ ไม่ได้หมายความว่ารองรับหมดแล้วนะครับ เป็นเพียงรายการที่คาดว่า "จะรองรับ" เท่านั้น แต่อย่างน้อยๆ ก็ยังมี Java 2 Micro Edition ให้ ซึ่งจะมีระบบล็อกแบบไหนกันก็เลือกให้ถูกตามนั้นแล้วกันครับ (แอบมี iPhone ให้ด้วยนะเนี่ย)
พร้อมทั้งคำเตือนว่า "Installer may or may not be installed correctly on your device"

ขอข้ามขั้นตอนการติดตั้งไปนะครับ เพราะแต่ละแพลตฟอร์มย่อมไม่เหมือนกันแน่นอน

หลังจากที่ทำการติดตั้งแล้ว เมื่อเราเปิดโปรแกรมขึ้นมา (WM ของผมมันเปิดให้เลยหลังจากติดตั้งเสร็จนะ) ก็จะพบกับหน้าแนะนำการใช้งาน ก็แนะนำให้อ่านนะครับ (ตามลักษณะผู้ใช้ที่ดี) พออ่านหมดแล้ว ก็จะเจอกับหน้าตาโปรแกรมแบบเรียบง่าย ถ้าเข้าไปใน Settings ก็จะมีให้ปรับได้บ้างครับ ที่บอกว่าบ้างนี่คือ บางอันปรับไปก็ไม่มีผล บางอันปรับมันก็เด้งเป็นเหมือนเดิม ก็ลองปรับๆ กันดูได้ครับ อย่างมากขนาดไหน เครื่องผมก็ไม่พังเพราะท่านๆ ปรับด้วยความคันมือแน่นอน (แหงล่ะ)
การใช้งานก็ เอาจี้ไปที่ Barcode แบบ Microsoft Tag ได้เลยครับ ถ้าหาไม่ได้แต่ร้อนวิชา ก็เอาในหน้าหลักของ Microsoft ก็ได้

ภาพตอนใช้งานจริงครับ ต้องขอโทษด้วยเอานิ้วออกไม่ทัน เพราะถ้าไม่บังไว้ เอาออกปั๊บแทบจะเด้งข้อมูลปุ๊บเลยทีเดียว เห็นภาพมัวขนาดนี้ อ่านได้จริงๆ นะครับ แถมเร็วด้วย

ผลจากการทดลองใช้ด้วยตัวเอง ก็ค่อนข้างประทับใจกับความเร็วนะครับ ในภาวะที่ภาพเห็นจะไม่ค่อยชัด แตกเป็นเหลี่ยมๆ สีแสนจืด มืด และโฟกัสไม่ตรง (O2 XDA Atom Life ชัดนะครับ แต่ภาพในโปรแกรมมันออกมาเห่ยมาก คงเพื่อความเร็วกระมัง. ผมทำตัวห้อยให้ O2 ไม่เป็นครับ) มันก็ยังอ่านได้เร็วมากครับ ใช้เวลาในการถอดรหัสออกมาไม่นาน แม้ว่าจะใช้ EDGE ของ true move ก็ตาม (สรรพคุณของ true move EDGE พนักงานจะแจ้งให้ท่านอย่างไม่โกหกว่า ความเร็วเฉลี่ย 40kbps) ส่องผ่านๆ ก็สแกนได้
สำหรับคนที่ยังไม่ทราบ จนถึงจุดนี้คงต้องบอกเพื่อปกป้องกระเป๋าเงินของท่านแล้วว่า สิ่งที่ถอดรหัสออกมาเป็นแค่รหัสที่ต้องส่งไปให้ Microsoft เพื่อดึงข้อมูลกลับมาอีกครั้ง และแน่นอนครับ ผ่านอินเทอร์เน็ต (ที่จริง ในลิงก์ด้านบนก็มีบอกไว้)

เปรียบเทียบภาพที่ได้จากโปรแกรมกล้อง และที่ได้จากโปรแกรม Microsoft Tag

  • โปรแกรมกล้อง
  • โปรแกรม Microsoft Tag มืดกว่ากันเห็นๆ แตกเห็นๆ สีซีดเห็นๆ ครับ

แต่กระนั้น ยังมีอยู่หน้าหนึ่งที่แจ้งว่า "This version of Microsoft Tag Reader can read the following barcode formats:" ซึ่งแม้จะมีเพียง Microsoft Tag แต่ก็น่าจะหมายถึงว่าอนาคตจะสามารถอ่าน 2D Barcode แบบอื่นๆ ได้ในตัว ผลประโยชน์ก็จะตกกับผู้ใช้อย่างเราๆ ครับ ลงตัวเดียวอ่านได้หมด

แม้ว่าจะเป็นของใหม่กว่า แต่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียมากกว่ารุ่นพี่ เท่าที่ 2D Barcode โด่งดังจนรู้จักและมีการใช้กันในปัจจุบันนี้ก็คงจะมี Datamatrix Code (พวกอุปกรณ์ไอที, Battery โทรศัพท์ และโทรศัพท์มือถือก็มีครับ ลองดูใต้แบต), QR-Code (ในญี่ปุ่นมีการใช้กันเยอะมากๆ กระทั่งห่อทิชชู่) และ Microsoft Tag (เจ้านี้หาได้ในสหรัฐอเมริกา และผลิตภัณฑ์ของ Microsoft) โดยเมื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียกับรุ่นพี่อีกสองตัวแล้ว เท่าที่ผมคิดออกจะได้ประมาณนี้ครับ

ข้อดี

  • ความจุมากกว่ารุ่นพี่ทั้ง ๒ ที่ขนาดเท่าๆ กัน
  • สีสันสะดุดตากว่า (แน่นอน ก็รุ่นพี่เขาใช้ขาวดำนี่)
  • อ่านได้แม่นยำกว่าเมื่อคุณภาพของภาพแย่
  • เนื่องจากใช้ internet ในการอ่านข้อมูล ทำให้สามารถ update ข้อมูลทุกตัวแม้แต่รหัสผ่านได้ตลอดเวลา ไม่ต้องกังวลเมื่อเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ หรือรหัสผ่าน barcode หลุดไป
  • มีวี่แววว่าจะรองรับทั้งทุกๆ แพลตฟอร์มและทุกๆ 2D Barcode ด้วย Barcode Readerตัวเดียว

ข้อเสีย

  • ตอนนี้สร้างได้ผ่าน Microsoft เท่านั้น ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ช้ามากๆ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะประเทศไทยหรือไม่
  • ถ่ายเอกสารขาวดำไปอ่านไม่ได้ ซึ่งดูจากลักษณะการโปรโมทของ Microsoft ก็คิดว่าออกแบบมาในลักษณะที่ตามปกติจะไม่ได้ถ่ายเอกสาร
  • จากข้อดี ก็เป็นข้อเสียด้วย นั่นคือการที่ใช้อินเทอร์เน็ตในการอ่าน แต่ต่างประเทศเขาไม่ค่อยจะแคร์กันสักเท่าไรเนื่องจาก Wi-Fi, EDGE และ 3G แทบจะถูกกว่าค่าโทรศัพท์อยู่แล้ว
  • เท่าที่ทดสอบดู ไม่มีหรือแทบจะไม่มีส่วนของ Recovery ทำให้เมื่อฉีกขาดหรือหายไปบางส่วนจะอ่านไม่ได้ทันที ซึ่ง QR-Code สามารถปรับให้มีส่วนของ Error correction ได้มากถึง ๓๐% ซึ่งหมายความว่าแม้จะเหลือแค่ประมาณ ๒/๓ ก็ยังมีโอกาสที่จะอ่านได้ (ทดสอบโดยเอานิ้วบังไว้แล้วอ่านได้ครับ)
  • สำหรับคนบางกลุ่ม "Because it come from Microsoft." <<แซวเอาขำๆ นะครับ โปรดอย่าเปิดศึกจากบทความผมเลย

ก็ผ่านไปแล้วสำหรับบทความแรกจากผม (hisoft) ดี/ไม่ดี, ผิด/ถูก อย่างไรโปรดแนะนำและติชมด้วยนะครับ

ปล. ใครตอบได้คนแรกว่าตัวอย่างของ Microsoft Tag ที่ผมสร้างไว้ให้มีเนื้อหาเป็นอะไร มีรางวัลพิเศษเป็น ผู้ที่ตอบคำถามแรกจากบทความแรกของผมให้เลยเอ้อ (แน่นอนครับ ไม่ลงทุน)

ที่มา: Blognone, Microsoft

Blognone Jobs Premium