หลังจากที่ลือกันมาพักใหญ่ๆ ในที่สุด Blizzard ก็ได้ประกาศใช้งานระบบ Role Queue หรือ ระบบการล็อกตำแหน่งในทีมของผู้เล่นที่ให้แต่ละทีมมีผู้เล่นตำแหน่ง Damage - Tank - Support ทีมละ 2 คน (หรือที่รู้จักในชื่อ 2-2-2) อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว โดยระบบนี้จะถูกนำมาใช้ทั้งในการเล่นแบบ Quick Play, Competitive Play และการแข่งขันใน Overwatch League
ระบบดังกล่าวจะให้ผู้เล่นเลือกตำแหน่งที่ต้องการก่อนจะเริ่มต้นการ matchmaking เพื่อทำการเล่นเกม โดยระบบจะสุ่มให้แต่ละทีมมีผู้เล่นตำแหน่งละ 2 คน โดยระหว่างเกม ผู้เล่นจะสามารถเลือกเล่นฮีโร่ในเฉพาะตำแหน่งที่เลือกไว้ตอนแรกเท่านั้น
ในการเล่นแบบ Competitive Play ผู้เล่นจะมีค่าคะแนน Skill Rating (SR) เฉพาะของแต่ละตำแหน่งแยกออกจากกัน ส่วนการเล่นเพื่อจัดอันดับครั้งแรกของแต่ละซีซั่น หรือ Placement Match นั้น จะลดเหลือ 5 เกมจากเดิม 10 เกม แต่จะแยกกันแต่ละตำแหน่ง ดังนั้น ผู้เล่นที่อยากจะเก็บคะแนน SR ของทั้ง 3 ตำแหน่งจะต้องเล่น Placement Match ทั้งสิ้น 15 เกมนั่นเอง
ในขณะนี้ระบบ Role Queue ถูกนำมาใช้ในเซิฟเวอร์ PTR แล้ว และจะเข้าสู่ระบบเกมหลักในวันที่ 1 กันยายน 2019
ส่วนการนำมาใช้ใน Overwatch League นั้น ระบบ Role Queue จะเริ่มต้นใช้งานใน Stage 4 ที่จะแข่งขันกันในวันที่ 25 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ โดยผู้เล่นจะต้องเลือกตำแหน่งที่จะเล่นในแต่ละแผนที่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้หลังการแข่งขันในแต่ละแผนที่จบลง และเพื่อให้ง่ายต่อการรับชมของคนดู ผู้เล่นจะต้องนั่งตามตำแหน่งที่กำหนดไว้บนเวที ดังนั้น ถ้ามีการเปลี่ยนตำแหน่ง ก็จะต้องย้ายที่นั่งขณะแข่งขันตามไปด้วย
ที่มา: Overwatch, Overwatch League