ซัมซุงเปิดตัว Galaxy Note 10 โดยแบ่งเป็นสองขนาด Note 10 และ Note 10+ เป็นครั้งแรก จับตลาดผู้ที่ต้องการโทรศัพท์ปากกาแต่ไม่ชอบที่ Note รุ่นเดิมๆ มีขนาดใหญ่เกินไป
สเปคของ Note 10 มีดังนี้
ตัวเครื่องย้ายปุ่มทั้งปรับความดังและปุ่มปิดเปิดไปไว้ทางด้านซ้าย โดยปุ่ม Bixby ที่เคยแยกเป็นปุ่มเฉพาะนั้นหายไปแล้ว แม้จะคอนฟิกให้เรียกมาใช้งานได้ก็ตาม
สำหรับ S-Pen เพิ่ม accelerometer และ gyrometer สามารถแกว่งเพื่อส่งคำสั่งกลางอากาศได้ เรียกว่า air command สามารถส่งคำสั่งไปยังแอปต่างๆ เช่น กล้องสลับกล้องหน้า/หลัง, ซูม หรือแอปเพลงสามารถเปลี่ยนเพลงได้จากปากกา ไปจนถึงแอปนำเสนอก็ใช้เลื่อนสไลด์ได้ ตัวปากกามีอายุแบตเตอรี่ 10 ชั่วโมง ตอนนี้ซัมซุงส่งชุดพัฒนาให้นักพัฒนาแล้วสามารถเข้าถึงเซ็นเซอร์ของ S-Pen ได้ เช่นการควบคุมเกม ตอนนี้มีพันธมิตรร่วมแล้วคือ YouTube Premium ที่สามารถควบคุมวิดีโอผ่านทาง S-Pen ได้
ฟีเจอร์ด้านวิดีโอ Galaxy Note 10 เพิ่มมา เรียกว่า Pro-grade video สามารถใส่เอฟเฟคให้กับวิดีโอ เช่น ฟิลเตอร์หน้าชัดหลังเบลอ การอัดเสียงมีฟีเจอร์ Zoom-In Mic ทำให้ตัดเสียงรบกวนรอบๆ และอัดเสียงเฉพาะในภาพได้ และโหมด super-steady ที่รองรับการอัดวิดีโอนิ่งเหมือนมืออาชีพ ตัวแอปวิดีโอที่มากับ Note 10 จะสามารถตัดต่อเชื่อมวิดีโอหลายไฟล์เข้าด้วยกัน สร้าง transition ระหว่างวิดีโอ สามารถวาดภาพลงไปในวิดีโอโดยภาพที่วาดจะเป็นภาพเคลื่อนไหว
ลูกเล่น AR Doodle ทำให้แอปกล้องสามารถวาดภาพที่ลอยอยู่ในอากาศโดยเกาะกับใบหน้าของคนในภาพ หรือจะเกาะกับพื้นที่ในห้องก็ได้เหมือนกัน ทำให้สามารถสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนในโลก AR
ฟีเจอร์สแกนวัตถุ 3 มิติ มีเฉพาะใน Note 10+ ที่มีกล้องสามมิติมาด้วย สามารถสแกนวัตถุด้วยการถ่ายรูปไปรอบๆ ตัว Note 10+ แล้วทำเป็นไฟล์สามมิตินำไปพิมพ์ในพรินเตอร์สามมิติหรือนำมาเป็น avatar ให้ทำท่าเลียนแบบคน
DeX รุ่นอัพเดต ทำให้ Galaxy Note 10 สามารถใช้ DeX บนพีซีโดยใช้สาย USB เพียงเสีนเดียวต่อกับพีซี แล้วลงแอป DeX ซึ่งทำหน้าที่เหมือนแอป remote desktop เข้าไปทำงานบน Galaxy Note 10 ต่อได้เลย ผมทดสอบพิมพ์ภาษาไทยแล้วพบว่าใช้งานได้แม้ตัวพีซีไม่ได้ติดตั้งภาษาไทยไว้ก็ตาม แนวทางนี้ทำให้เราสามารถใช้พีซีเป็นเพียงจอและคีย์บอร์ดสำหรับโทรศัพท์เท่านั้น และยังไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมใดๆ เพิ่มเติม โดย DeX สำหรับพีซีนี้รองรับทั้งแมคและวินโดวส์
หรือหากไม่ได้ใช้ DeX ตัว Note 10 ก็มีฟีเจอร์ Link to Windows เมื่อเชื่อมต่อกันแล้ว สามารถตอบข้อความในโทรศัพท์, mirror หน้าจอจากโทรศัพท์เข้ามาในพีซี, และภายในปีนี้จะสามารถรับโทรศัพท์จากวินโดวส์ได้เลย
ฟีเจอร์เพิ่มเติมสำหรับการใช้งานร่วมกับพีซีคือการเชื่อมต่อผ่านคลาวด์เมื่อล็อกอินผ่านบัญชีไมโครซอฟท์ ทำให้สามารถซิงก์ภาพล่าสุดจากโทรศัพท์มาใช้งานบนพีซีได้ทันที หรือการซิงก์ข้อความก็ได้เช่นกัน
ราคา Galaxy Note 10 เริ่มต้น 949 ดอลลาร์ และ Note 10+ เริ่มต้น 1099 ดอลลาร์ เริ่มขายในสหรัฐฯ 23 สิงหาคมนี้