ในงาน Adobe Max ปี 2018, Adobe เปิดตัว Project Gemini แอพพลิเคชั่นวาดรูปในตระกูล Adobe Creative Cloud ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานบน iPad และปากกา Apple Pencil โดยเฉพาะ ล่าสุด Adobe เปลี่ยนชื่อ Project Gemini เป็น Adobe Fresco และเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนใช้งานเวอร์ชั่นเบต้าแล้ว
จุดเด่นของ Fresco คือฟังก์ชั่นสีน้ำและสีน้ำมันที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังวาดสีบนปูนหรือผ้าใบจริงๆ โดย Blognone มีโอกาสได้ลองใช้งานแอพเวอร์ชั่นเบต้ามาช่วงสั้นๆ ก่อนจะเปิดให้ใช้งานจริงภายในปีนี้
ที่มาของชื่อ Fresco แปลว่าการเขียนสีบนกำแพงหรือการวาดภาพบนปูนที่ยังไม่แห้ง ซึ่งเป็นเทคนิคการวาดที่อยู่กับมนุษย์มานาน Adobe จึงหยิบเอาเทคนิคการวาดแบบโบราณเข้ามาอยู่ในแอพพลิเคชั่นที่ผสานทักษะการวาดดั้งเดิมกับเครื่องมือดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกัน
คำเตือน : รูปเยอะ
แอพพลิเคชั่น Fresco มีหน้าตาการใช้งานเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนและดูยากเท่า Photoshop บนพีซี แต่จะมีหน้าตาคล้ายกับ Photoshop เวอร์ชั่นเต็มบน iPad ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว
เมื่อเข้าใช้งาน Fresco จะเจอหน้าหลัก รวมผลงานที่ตัวเองวาดไว้ ซึ่งจะเก็บไว้บนเครื่องและคลาวด์ บางรูปก็มีติดไว้ในเครื่องอยู่แล้วเป็นรูปวาดจากศิลปินคนอื่นที่วาดงานลง Fresco แล้ว Adobe นำมาลงไว้เป็นตัวอย่างงานให้นักวาดผู้ใช้งานได้ศึกษางานของพวกเขาอย่างละเอียดว่าพวกเขาแบ่งเลเยอร์งานวาดไว้อย่างไรบ้าง
ในเมนู Gallery มีการรวมผลงานวาดของศิลปินไว้ด้วยกัน และมีบล็อกบรรยายเทคนิคการวาดที่แต่ละคนใช้ สามารถกดไลค์ กดคอมเมนท์ให้กันได้ เป็นเสมือนโซเชียลมีเดียของนักวาดภายในตัวแอพ Fresco เลย
เข้ามาสู่หน้าใช้งานหลักกัน ฟังก์ชั่นเด่นของ Fresco คือ Brush ซึ่งใน Fresco ได้รวบเอา Brush ไว้ในเครื่องมือสามเมนูด้านซ้ายบน คือ Pixel Brush, Vector Brush และ Live Brush แต่ละเมนูก็มี Brush ชนิดต่างๆ แยกย่อยลงไปอีก รวมๆ แล้วราว 123 Brush ด้วยกัน ถ้าคนที่เป็นสมาชิก Creative Cloud อยู่แล้วก็จะสามารถโหลด Brush เพิ่มได้
ในบทความนี้จะขอเน้นเฉพาะ Live Brush ที่เป็นฟีเจอร์เด่น ซึ่ง Adobe ระบุผ่านบล็อกว่า ใช้ AI Sensei เรียนรู้พฤติกรรมการวาดสีน้ำและสีน้ำมันจริงๆ เช่น สีน้ำจะเหมือนกับสีที่ระบายลงไปบนกระดาษเปียก (ตามชื่อเทคนิคการวาด fresco) โดยทีมงานต้องเก็บข้อมูลการกระจายของสีน้ำที่ระบายบนกระดาษฝ้าย
สีน้ำ
Live Brush จะรวม Brush สีน้ำและสีน้ำมันเข้าไว้ด้วยกัน สามารถเลื่อนดูสไตล์ของ Brush ประเภทต่างๆ ได้ และสามารถโหลด Brush เพิ่มได้จากคลัง Creative Cloud
ไฮไลต์สำคัญคือการลงสีน้ำ จะเห็นการกระจายตัวของน้ำ ที่สีไม่เสมอกันทั้งหมด (เป็นธรรมชาติของการลงสีน้ำอยู่แล้ว) ทำให้ดูเหมือนเอาพู่กันจุ่มสีน้ำและวาดบนกระดาษจริงๆ
ในส่วนการผสมสีก็ยังทำได้เหมือนสีน้ำจริงๆ เช่น ปาดสีฟ้าลงกระดาษ (หน้าจอ) และปาดทับด้วยสีดำสนิท สีที่ได้จะเป็นสีน้ำเงินเข้มคล้ำๆ เหมือนผสมสีบนจานสีจริง โดยสีน้ำยังผสานเข้าหากันอย่างเป็นธรรมชาติด้วย สามารถดูตัวอย่างการกระจายของสีที่คลิปด้านล่าง
เทียบความแตกต่างของ Brush สีน้ำ ใน Adobe Sketch จะเห็นว่าต่างกัน สีน้ำยิ่งปาดทับไปมากๆ ตรงที่ทับซ้อนกันจะมีความเข้มเพราะโดนสีน้ำทับกันหลายชั้นจนกระดาษเปียกมากกว่าตำแหน่งอื่น ซึ่ง Fresco สามารถทำได้ดี ส่วนใน Sketch ยังดูไม่สมจริงเท่าไร
สีน้ำมัน
อีกหนึ่งฟีเจอร์ไฮไลต์ของ Fresco คือสีน้ำมัน จากการลองเล่น พบว่าสีน้ำมันมีความข้น แน่น จับตัวเป็นก้อนมากกว่าสีน้ำ และที่สำคัญมีรอยแปรงเหมือนใช้แปรงปาดสีน้ำมันจริงๆ เรื่องการผสมสียังทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ สังเกตได้จากรอยต่อระหว่างสีตามรูปภาพด้านล่าง
เมื่อลองขยายจะเห็นพื้นหน้าจอจะเห็นพื้นสีเป็นร่องผ้าใบ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนวาดบนผ้าใบ
ในการใช้งานจริง พบว่าการใช้ดินสอร่างแบบก็สามารถทำได้ดี ด้วยความที่ Apple Pencil มีขนาดใหญ่จับถนัดมือ ทำให้การร่างดินสอมีความลื่นไหล ตัว Brush ดินสอยังปรับความอ่อน เข้มได้ ถ้าเรากดน้ำหนักมือ ดินสอก็จะเข้มขึ้นตามแรงกด นอกจากนี้ยังสามารถเอียงดินสอเพื่อแรเงาได้ด้วย ดูตัวอย่างได้จากคลิปด้านล่าง
เมื่อวาดเสร็จยังสามารถ export เป็น timelapse บันทึกขั้นตอนการวาดตั้งแต่เริ่มลงปากกาครั้งแรกจนเสร็จงาน และ export เป็นไฟล์ที่นำไปทำงานต่อใน Photoshop และ Illustrator ไปทำงานบนพีซีต่อได้
ขอบคุณรูปวาดจิ้งจอกสวยๆ จากคุณ Pinto
Adobe Fresco เป็นอีกแอพวาดรูปที่ Adobe ทำมาเพิ่มในตระกูล Drawing&Painting แอพที่มีอยู่แล้วคือ Adobe Sketch, Photoshop Sketch, Illustrator Draw ซึ่ง Fresco จะเน้นการใช้งานบนแท็บเล็ตและปากกาเป็นการเริ่มต้นเลย และเน้นที่เทคนิคการวาดพื้นฐานอย่างการใช้แปรงและพู่กันอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ในขณะเดียวกันตัวแอพก็รวมเอา Brush Vector เข้ามาด้วยถ้านักวาดต้องการจะใช้
ความเห็นจากกราฟิกดีไซเนอร์ของ Blognone ระบุว่า การปรับตัวมาใช้งาน Adobe Fresco อาจยากสำหรับคนที่ใช้งาน Adobe Sketch และ Procreate จนชิน ต้องมาเรียนรู้เครื่องมือใหม่ แต่ถ้าใครใช้งาน Photoshop คล่องก็จะใช้งาน Fresco ง่าย ส่วนจำนวนเลเยอร์เท่าที่ลองใช้งานคาดว่าเพิ่มได้เรื่อยๆ ไม่จำกัด (ลองเพิ่ม 50 เลเยอร์)
Adobe ระบุว่า Fresco เวอร์ชั่นใช้งานจริงจะเริ่มเปิดตัวใน iPad Pro ภายในปีนี้ แต่ยังไม่ได้ระบุวันที่ชัดเจน โดยจะขยายไปยังอุปกรณ์อื่นเรื่อยๆ เช่น Wacom, Microsoft Surface ปัจจุบัน Fresco รองรับการใช้งานระบบ iOS เวอร์ชั่น 12.4 ขึ้นไป บนอุปกรณ์ iPad Pro รวมทั้ง iPad Air รุ่น 3, iPad รุ่น 5,6 และ iPad Mini รุ่น 5
Adobe ยังไม่ระบุแผนราคาของ Fresco ว่าจะเป็นหนึ่งในแพ็กเกจรายเดือนรวมทุกแอพของ Adobe หรือจะเป็นแบบให้ซื้อขาด หากมีรายละเอียดเพิ่มเติม Blognone จะนำมาแจ้งต่อไป