ประสบการณ์ไปชม The International 2019 ที่เซี่ยงไฮ้ ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ประจำปีของ Dota 2

by geekjuggler
2 September 2019 - 14:35

The International เวทีศักดิ์สิทธิ์เพื่อค้นหาทีมที่แข็งแกรงที่สุดแห่งปีของเกม Dota 2 เจ้าของตำแหน่งทัวร์นาเมนต์ esports ที่มีเงินรางวัลรวมสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นรายการแข่งขันที่แฟน Dota 2 อยากไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิต

เมื่อ Valve ประกาศว่า The International 2019 (หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า TI 9) จะจัดขึ้นที่ประเทศจีน แทนที่จะเป็นซีกโลกตะวันตกเหมือนที่แล้วมา ทำให้ผมมีความหวังเล็กๆ ที่จะได้ไปชมงาน TI 9 แบบสดๆ ในสนาม และโชคดีอย่างมากที่สามารถทำได้สำเร็จ

แล้วบรรยากาศในงานจะเป็นแบบไหน จะสนุกเร้าใจเหมือนที่คิดไว้หรือไม่ มาลองติดตามเดินทางไปงาน The International 2019 นี้ไปด้วยกันครับ

(คำเตือน: บทความนี้มียาวมาก และ มีรูปค่อนข้างเยอะ)

ทำไมต้องจีน

เหตุผลสำคัญที่ปีนี้ TI 9 ย้ายมาจัดที่ประเทศจีน น่าจะมาจากหลายๆ เหตุผลประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นการที่จีนเป็นประเทศที่ Dota 2 ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีทีม ลีกการแข่งขัน และแฟนคลับที่เหนียวแน่น รวมถึงเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง Valve กับ Perfect World ผู้ให้บริการ Dota 2 ในจีน ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์หลักสำหรับการจัดงานในครั้งนี้ และ ทั้งคู่ยังเพิ่งจับมือเปิดตัว Steam China ไปเมื่อช่วงปลายปีก่อนอีกด้วย

การซื้อตั๋ว

The International 2019 จัดขึ้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เริ่มแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มกันตั้งแต่วันที่ 15-18 สิงหาคม 2019 และรอบ Main Stage ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม จัดขึ้นที่ Mercedes-Benz Arena Shanghai ในวันที่ 19-25 สิงหาคม 2019

ภารกิจแรกที่ต้องฝ่าฟันของการไป TI 9 คือต้องกดตั๋วแข่งกับคนทั้งโลก และถือว่าเป็นโชคดีมากๆ เพราะปีนี้มีผู้จัดจำหน่ายตั๋ว 2 เจ้า คือ Damai.cn สำหรับคนจีน และ Universe.com สำหรับผู้ชมที่ไม่ใช่คนจีน ซึ่งผมสามารถกดซื้อตั๋วเข้าชมได้ตลอดทั้งรายการผ่านทางช่องทางนี้ เว็บนี้ใช้ระบบให้ทุกคนเข้ามายังห้องรอก่อนจะสุ่มคิวในการซื้อบัตร

ส่วนคนจีนและผู้อาศัยในประเทศจีนต้องซื้อบัตรผ่าน Damai.cn พาร์ทเนอร์ขายตั๋วของ Mercedes-Benz Arena Shanghai และหลังจากเปิดขายบัตร ก็มีเรื่องดราม่าเกิดขึ้นมากมายล้น Weibo แทบจะทันที เช่น บัตรทุกใบถูกขายเกลี้ยงภายใน 30 วินาที และบัตรจำนวนมากถูกนำไปขายต่อในเว็บไซต์ขายบัตรมือสองพร้อมราคาที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ปัญหาการรับบัตรหน้างานที่ได้เลขที่นั่งไม่ตรงกับเมลยืนยันตอนซื้อ โดยมีการคาดการณ์ว่าตั๋วในตำแหน่งดีๆ ถูกสลับเพื่อนำไปขายต่อในราคาที่สูงขึ้น เป็นต้น

ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ซื้อบัตรผ่าน Damai แต่ก็ใช่ว่าจะรอดจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้น รอติดตามกันได้เลยครับ

(ทริคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้ที่ต้องการไปชมงาน TI คือ หาก Valve ประกาศวันจัดการแข่งขันแล้ว ให้รีบจองโรงแรมล่วงหน้าไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ผ่านเว็บไซต์ที่สามารถยกเลิกการจองแบบไม่เสียเงินเอาไว้เลย เพราะราคาที่พักในช่วงใกล้วันงานนั้นจะพุ่งสูงกว่าปกติประมาณหนึ่งเลยทีเดียว)

ซุ้มทางเข้างาน สองข้างประดับด้วยธงลายโลโก้ทีม

เข้างาน

ตัดภาพมาที่เช้าวันที่ 19 ที่ผู้เข้าชมต้องเดินทางมารับตั๋วเข้าชมงานทั้งหมดที่ซุ้ม Will Call มีความติดขัดเกิดขึ้นหลายอย่าง เช่น การใช้คนในการไล่ค้นหาตั๋วที่ถูกปรินท์เอาไว้ล่วงหน้า ไม่ใช่การสั่งปรินท์จากคอมพิวเตอร์ซึ่งประหยัดเวลากว่า หรือ การที่ผมได้เลขที่นั่งไม่ตรงกับที่ซื้อไว้ (ของวันที่ 24) ทำให้ต้องแยกกันนั่งกับเพื่อนที่มาด้วยกัน

การเสียเวลาตรงจุดนี้ ทำให้ผมต้องชมพิธีเปิดงานผ่านหน้าจอมือถือไปโดยปริยาย ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนี้ เดาว่าน่าจะมาจากการสลับที่นั่ง ตามที่กล่าวไปในข้างต้นนั่นเอง

อีกหนึ่งความน่าหงุดหงิดใจเล็กๆ คืองานปีนี้ใช้ตั๋วกระดาษธรรมดา แทนที่จะเป็นบัตรแข็งเหมือนปีก่อนๆ โดยเราจะได้รับตั๋วทั้งหมด 6 วันมารวดเดียวเลย โดยในงานเปิดขายตั๋วเป็น 2 แบบ คือ ตั๋วสำหรับวันธรรมดา 2 วัน (ถ้าจะชมให้ครบทั้ง 4 วันธรรมดา ต้องซื้อ 2 ออเดอร์) และวันสุดสัปดาห์ 2 วัน ซึ่งแบบหลังจะมีราคาแพงกว่า

แต่ยังถือว่าตัวเองยังมีแต้มบุญอยู่ เพราะสามารถเข้าสนามทัน Gabe Newell ซีอีโอของ Vale กล่าวประโยคเปิดงาน “Welcome to The International” ทันเวลาพอดี

การเข้าสู่สนามในแต่ละวัน เราจะต้องนำตั๋วไปแลกรับสายรัดข้อมือประจำวันวันนั้น ซึ่งมีลายเป็นฮีโร่แต่ละตัวใน Dota 2 พร้อมรับของที่ระลึกที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัน เช่น โมเดล Dotakins แพตช์ติดกระเป๋า เข็มกลัดรูป Aegis หรือ ตุ๊กตาฮีโร่แบบ Squishy สุดน่ารัก

Goodie Bag ที่แจกให้ผู้เข้าชอบรอบวันสุดสัปดาห์ปีนี้เป็นกระเป๋าคาด แตกต่างจากปีก่อนๆ

อีกหนึ่งของแจกสุดพิเศษสำหรับผู้ที่มาชมงาน The International 2019 ถึงขอบสนามคือ โค้ดเพื่อลุ้นรับ Treasure of the Crimson Witness 2019 loot box ที่จะสุ่มแจกให้กับผู้เข้าร่วมงานเมื่อเกิดการ First Blood ขึ้นในเกม โดยเราจะต้องผูกบัญชี Steam ขณะกรอกโค้ดเพื่อรับไอเท็มนี้

โค้ดอยู่ในการ์ดด้านซ้ายมือ ส่วนด้านล่างที่รองอยู่คือเสื้อยืดที่แจกสำหรับ All-Star Match

บรรยากาศในสนาม

ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้ขณะก้าวเท้าผ่านเข้าประตูเข้าไปในสนาม คือ ความยิ่งใหญ่อลังการของสนาม Mercedes-Benz Arena Shanghai ที่มีความจุถึง 18,000 ที่นั่ง พร้อมกับจอขนาดยักษ์ 4 ทิศ เวทีการแข่งขันพื้นจอ LED และมี Aegis of the Champions โล่รางวัล ที่ตั้งตระหง่านรอคอยผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะได้ครอบครอง

ฟากผู้ชม (ซึ่งส่วนใหญ่ชาวจีน) มาพร้อมความคึกคัก เชียร์ทีมจากจีนกันอย่างจัดเต็ม พร้อมอุปกรณ์อย่างเสื้อเชียร์หรือผ้าเชียร์ ทีมที่ได้รับเสียงเชียร์จากชาวจีนมากที่สุดก็หนีไม่พ้น PSG.LGD รองแชมป์ TI 8 ที่พวกเขาคาดหวังว่าจะเป็นผู้นำชัยคว้าแชมป์ที่บ้านเกิดของตัวเองให้ได้

สิ่งหนึ่งที่พูดถึงกันบน Reddit ตลอดช่วงเวลาการแข่งขันคือชาวจีนเน้นเชียร์แต่ทีมจากจีน และไม่ค่อยสนใจทีมอื่นๆ สักเท่าไหร่ จากที่ได้สัมผัสมาก็ต้องยอมรับว่าเป็นเช่นนั้นจริง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเงียบไปเลยเสียทีเดียว เพราะก็ยังมีเสียงเฮ เสียงเชียร์ในจังหวะการเล่นสำคัญๆ อยู่ตลอด แต่อาจจะไม่คึกคักเท่าขณะตอนทีมจีนแข่งนั่นเอง

Jabz - อนุชา จิระวงศ์ ผู้เล่นชาวไทยเพียงหนึ่งเดียวในรายการนี้

แน่นอนว่าทุกอย่างภายในงานใช้ภาษาจีนล้วน ไม่ว่าจะเป็นการพากย์เสียง การสัมภาษณ์ผู้เล่นและโค้ช หรือ VTR ที่เปิดภายในงาน ตรงนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าพอเป็นภาษาจีนที่เราไม่เข้าใจ อาจทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ไม่เต็มร้อย แต่ความสนุกตื่นเต้นในการได้เห็นการแข่งขันแบบสดๆ และ ปฏิกริยาของผู้เล่นหลังจบแมตช์ที่ยังคงอัดแน่น ก็ยังทำให้เราตื่นเต้น และเป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากการชมผ่านหน้าจอ

อีกหนึ่งข้อสังเกตที่น่าสนใจบรรยากาศการพากย์ของจีนจะมีความนิ่ง บรรยายเกมไปเรื่อยๆ แตกต่างจากโซนตะวันตก (หรือของไทยเอง) ที่มีความตื่นเต้นและไฮป์กับสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมมากกว่า

(ชมตัวอย่างลีลาการพากย์ของ ODPixel และ Fogged ในโมเมนต์รอบชิงชนะเลิศได้ ที่นี่ )

ตลอด 6 วันที่มางาน TI9 นี้ ผมเองได้พบคนไทยที่บินมาชมงานนี้อยู่บ้าง โดยบังเอิญได้นั่งติดกับบิวตี้บล็อกเกอร์และยูทูบเบอร์ชื่อดังของไทยที่มาดูงานนี้เช่นเดียวกัน

นอกเหนือจากผลการแข่งขันแล้ว เรื่องราวน่าสนใจที่เกิดขึ้นในสนามคือ กองเชียร์ขาวจีนยังคงไม่ให้อภัย Carlo "Kuku" Palad ผู้เล่นทีม TNC Predator ที่เคยมีดราม่าใช้คำเหยียดเชื้อชาติ ยังคงโดนเสียงโห่ใส่ตลอดเวลาที่เขาปรากฏตัว (และในบางจังหวะถึงขั้นโดนตะโกนด่าด้วยคำหยาบคายในภาษาจีน) และกองเชียร์ทีม Infamous ตัวแทนจากโซนอเมริกาใต้ ตลอดระยะเวลาที่ทีมนี้แข่งขันจะมีเสียงตะโกนเชียร์ทีมนี้อย่างสุดเสียง สุดใจ และ สุดพลังจากผู้ชม 2 คนที่ตั้งใจมาเชียร์ทีมนี้จริงๆ (จากการหาข้อมูลใน Reddit หนึ่งในนั้นคือสตรีมเมอร์สาวจากเปรูที่ตั้งใจบินมาดู TI 9 และเชียร์ทีมนี้โดยเฉพาะ)

การแข่งขันในแต่ละวันจะเริ่มตั้งแต่ช่วง 10 โมงเช้า ส่วนเวลาเลิกมีตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ หรือบางวันก็ลากยาวไปจนถึงห้าทุ่มกว่า จนไปไม่ทันรถไฟใต้ดินก็มี ตารางการแข่งขันนั้นต้องบอกว่าอัดแน่นตลอดทั้งวัน ผู้ชมต้องจัดการบริหารตัวเองให้ดีๆ ว่าจะออกไปหาของกินหรือซื้อของที่ระลึกในช่วงเวลาไหน

คนจับจองพื้นที่รอบถ่ายรูปการจับมือกันหลังจากแมตช์ OG-EG จบลง

บรรยากาศนอกสนาม

เรื่องราวของ TI 9 ไม่ได้อยู่แค่ในเวทีการแข่งขันเพียงอย่างเดียว เพราะรอบสนามก็มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่หลายอย่างเช่นเดียวกัน

ป้ายโฆษณางานในสถานีรถไฟใต้ดิน China Art Museum

Legion Commander ที่ยืนรอต้อนรับทุกคน

มีเซอร์ไพร์สขอแต่งงานกันในงานด้วย

สิ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับงานนี้คือบรรดาของที่ระลึกจาก Secret Shop ที่รอเราซื้อหาเป็นเจ้าของ ตลอดทางเดินรอบอาคารจะมีตู้โชว์แสดงสินค้าตัวอย่างให้ได้ชมก่อนตัดสินใจซื้อ ปีนี้มีสินค้าหลากหลายเช่นเดิม ตั้งแต่ของธรรมดาอย่างเสื้อแจ็กเก็ตปักลายประจำปี หมวก เสื้อยืด หุ่นฟิกเกอร์ ร่ม พัดลมมือถือ เม้าส์และแผ่นรองเม้าส์ ไปจนถึงคีย์แคปรูป Aegis ไว้ไปประดับคีย์บอร์ด

สินค้าที่เป็นไฮไลท์ที่สุดของงานนี้คือ ชุดไพ่นกกระจอก Limited Edition สำหรับงาน The International 2019 แกะลายของตัวไพ่เป็นรูปองค์ประกอบต่างๆ จากตัวเกม มาพร้อมกระเป๋า ชุดชิป และแผ่นรองลายแผนที่ Dota 2 ซึ่งไพ่นกกระจอกนี้ขายดีมากๆ ในหมู่แฟนเกมชาวจีน

วิธีการสั่งซื้อสินค้าผ่าน Secret Shop ทำได้ 2 วิธีด้วยกัน คือ คนที่อยากสัมผัสของจริงก่อนจ่ายเงินสามารถไปเข้าคิวเพื่อรอซื้อของได้ตามปกติ ส่วนคนที่ต้องการความสะดวกสบาย สามารถสั่งซื้อแบบออนไลน์แล้วไปต่อคิวเพื่อรับของในงานได้ทันที สต็อกสินค้าของทั้งสองวิธีนี้จะแยกจากกัน ดังนั้น สินค้าที่หมดในสต็อกหน้าร้านอาจจะยังมีให้สั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ได้

แถวซื้อของที่คนแน่นตลอดทั้งวัน

นอกจาก Secret Shop แล้ว ในงานยังมีบูธที่เปิดให้แต่ละทีมมาขายสินค้าของตัวเองได้ โดยจะแต่ละทีมจะเวียนกันมาขายในแต่ละวัน

อาหารในงาน

เพราะกองเชียร์ต้องเดินด้วยท้อง การหาของกินระหว่างวันถือเป็นอีกเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน ถ้าต้องการประหยัดเวลาไม่อยากเดินไปไหนไกล ตัวเลือกเดียวที่มีคือร้านขายอาหารในสนาม แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่ถือว่าโหดร้ายเอาเรื่อง (ชุดฮอทด็อกกับน้ำอัดลมอยู่ที่ 55 หยวน หรือ ราว 240 บาท)

แต่ถ้าไม่อยากจ่ายหนัก ก็ต้องออกเดินทางกันนิดนึง มีตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อเจ้าดังใต้สนาม (ที่มารู้ว่ามีตอนวันสุดท้ายแล้ว) หรือ จะเดินไปกินร้านอาหารที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ ที่มีทุกราคา ทุกแนวให้เลือกกิน

บูธขายกาแฟในห้างข้างๆ สนามที่มีผู้เล่นทีม PSG.LGD เป็นพรีเซ็นเตอร์

คาเฟ่ข้างสนามที่ทีม Royal Never Give Up จากจีนเหมาร้านไว้เพื่อจัดกิจกรรมของทีม

นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายกิจกรรมรอบๆ งานที่ช่วยสร้างสีสันให้กับผู้ร่วมงาน

ผู้ชนะจากการประกวดคอสเพลย์จากอินเดีย ซึ่งเขาได้มาโพสต์บอกเล่าเรื่องราวบน Reddit ว่าเขาเริ่มลงมือทำชุดตั้งแต่การประกาศการจัดงานที่จีนเมื่อปีก่อน

อีกหนึ่งไฮไลต์เด็ดของงาน การฉายภาพโลโก้งานและโลโก้ทีมต่างๆ บนตึกข้างๆ สนาม

รอบชิงชนะเลิศ

น่าเสียดายที่แฟนๆ ชาวจีนต้องใจสลายไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะ PSG.LGD จากจีนพ่ายให้กับ Team Liquid ในรอบชิงของ Lower Bracket ทำให้รอบชิงเป็นการโคจรมาเจอกันของยอดทีมจากยุโรป ระหว่าง OG แชมป์ TI 8 พบกับ Team Liquid แชมป์ TI 7

เพลงเปิดตัวเข้าสนามของรอบชิงชนะเลิศจะถูกบรรเลงด้วยกลองแบบสดๆ สร้างความฮึกเหิม

การแข่งขันนัดนี้ถือเป็นนัดชิงประวัติศาสตร์ที่จะเขียนตำนานบทใหม่ของ The International เพราะไม่ว่าทีมใดชนะ จะกลายเป็นแชมป์ 2 สมัยเป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่อาจรั้งให้แฟนชาวจีนผู้ผิดหวังให้อยู่ในสนามได้ รอบชิงชนะเลิศนั้นมีคนดูหายไปราว 10-15% จากที่แน่นขนัดทุกที่นั่งในตอนที่ PSG.LGD ลงแข่งขัน

แต่กระนั้น บรรยากาศในสนามก็ยังคงดุเดือดน่าตื่นเต้น ผู้ชมทุกคนที่เหลือต่างสนุกไปกับเกมที่อยู่ตรงหน้า จากการสังเกตพบว่าคนจีนในสนามส่วนใหญ่ ต่างเทใจให้กับ Team Liquid มากกว่า OG

ก่อนเริ่มเกมที่ 4 ผมและเพื่อนได้ไปร่วมแจมออกกล้องด้านหลังแคสเตอร์กับกลุ่มแฟนคลับทีม OG ที่เชียร์กันอย่างเฮฮา อย่างการนัดกันกระดกเบียร์หมดแก้วพร้อมตะโกนเชียร์ทีมที่รัก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศสนุกๆ ที่สัมผัสได้จากการมาดูที่สนามเท่านั้น

มุมด้านหลังนักพากย์

มีเกร็ดเล็กน้อยที่ไม่ได้ถูกบอกเล่าผ่านการถ่ายทอดสดคือ ทางทีมงานจะเชิญครอบครัวและคนใกล้ชิดของทั้งสองทีมจาก VIP Box ด้านบน ลงมานั่งดูเกมข้างสนามในช่วงก่อนเกมตัดสินผู้ชนะ เพื่อที่ว่าเมื่อการแข่งขันจบลง จะได้เดินเข้าไปแสดงความยินดีกันได้ทันที

ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนไทยผู้ชูภาพอดีตนายกฯ ด้วย เขากล่าวว่าตามชูมาตั้งแต่ TI 4 แล้ว

สุดท้าย The International 2019 นี้ โล่ Aegis of the Champions ตกเป็นของ OG ที่สามารถพิสูจน์ตัวเองว่าการคว้าแชมป์เมื่อปีก่อนไม่ใช่เรื่องบังเอิญตามที่ใครหลายคนปรามาส ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ผ่านรูปแบบการเล่นที่หลากหลายจนยากที่จะรับมือ ท่ามกลางเสียงปรบมือโห่ร้องแสดงความยินดีจากคนทั่วทั้งสนาม

สำหรับผมแล้ว The International 2019 คืออีกหนึ่งเหตุการณ์ความประทับใจในชีวิตในฐานะคนที่ติดตามการแข่งขัน Dota 2 อย่างจริงจังมาตลอด ถึงจะต้องเจอกับเรื่องจุกจิกกวนใจเล็กๆ น้อยๆ ตลอดงาน แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์สุดพิเศษและได้ทำตามความฝันของตัวเองได้สำเร็จไปอีกหนึ่งอย่าง

The International คือ เครื่องยืนยันว่าการแข่งขัน esports มีมนต์เสน่ห์ในแบบของตัวเอง และคุ้มค่าที่จะไปชมการแข่งขันถึงสนามจริง ไม่แตกต่างอะไรกับกีฬาทั่วๆ ไป

สำหรับในปีหน้า The International 10 ย้ายกลับไปจัดที่ยุโรปอีกครั้งที่เมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ถ้าใครมีแผนจะบินไปดู ก็ขอให้สมหวังกดตั๋วเข้าชมกันได้ทุกคนครับ

Blognone Jobs Premium