แอปเปิลเปิดตัว iPhone 11 โดยยังใช้ดีไซน์หน้าจอมีรอยบากเหมือน iPhone X/XS แต่ปรับวัสดุด้านหลังให้ใช้สีสันสดใสกว่าเดิม มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี และกล้องหลัง 2 ตัว ใช้ดีไซน์การเรียงกล้องในกรอบสีดำที่มุมซ้ายบน ตรงตามภาพหลุดก่อนหน้านี้ทุกประการ
แอปเปิลเปรียบเทียบ iPhone 11 กับ iPhone XR ซึ่งถือเป็น iPhone ราคาถูกที่สุดในซีรีส์ และเปิดราคามาที่ 699 ดอลลาร์หรือประมาณ 22,000 บาทเท่านั้น
หน้าจอขนาด 6.1" ที่เรียกว่า Liquid Retina Display ซึ่งแอปเปิลบอกว่าเป็นจอ LCD ขั้นสูง (Advanced LCD) และแสดงผลสีแบบ True Tone
ขุมพลังภายในเป็นชิปตัวใหม่ Apple A13 Bionic ที่พัฒนาขึ้นจาก A12 เดิม แอปเปิลระบุว่าจีพียูของ A13 มีสมรรถนะสูงที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนทั้งตลาด
กล้องหลัง 2 ตัว ทั้งสองตัวความละเอียด 12MP โดยแบ่งเป็นกล้องปกติ (wide camera) และกล้องมุมกว้างพิเศษ (ultra-wide camera) พร้อมฟีเจอร์ด้านการประมวลผลรูปภาพหลายอย่าง เช่น ถ่าย Portrait แบบไม่เบี้ยว, Night Mode ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย
iPhone 11 รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K 60 fps พร้อมฟีเจอร์ครบครัน เช่น slow-mo, time-lapse
กล้องหน้า TrueDepth อัพเกรดเป็น 12MP รองรับการถ่ายในแนวนอน และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ slow-mo, ปลดล็อคด้วย Face ID เร็วกว่าเดิม
แบตเตอรี่ของ iPhone 11 ระบุว่าจะยาวกว่า iPhone XR อีก 1 ชั่วโมง
ราคาเริ่มต้นที่ 699 ดอลลาร์ (ประมาณ 22,000 บาท)