ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์ Volkswagen ระบุ "ถ้าไม่มี Elon Musk งานผมคงจะยากกว่านี้เยอะ"

by BlackMiracle
12 September 2019 - 09:42

สัปดาห์นี้ Volkswagen ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากเยอรมนี ได้เปิดตัว ID.3 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของบริษัทที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง หลังเจอมรสุมคดีโกงผลการทดสอบมลพิษเมื่อปี 2015 ทำเอาบริษัทต้องปฏิวัติธุรกิจของตนใหม่หมด

Volkswagen เปลี่ยนยุทธศาสตร์ของบริษัทใหม่โดยวางแผนว่าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าถึง 70 รุ่น รวม 22 ล้านคันในเวลา 10 ปีข้างหน้า และจะลงทุนราว 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 1 ล้านล้านบาท ในการปรับโครงสร้างองค์กรทั้งหมดภายในปี 2023

ในการนี้ Michael Jost ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์ของ Volkswagen ถึงกับให้สัมภาษณ์ว่าหากไม่มี Elon Musk งานของเขาคงจะยากกว่านี้มาก เพราะมันไม่ง่ายเลยที่จะเปลี่ยนบริษัทเก่าๆ ให้ไปสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากต้องโน้มน้าวคนในบริษัทให้ได้ ทำให้การมี Elon Musk เป็น "ไอดอล" เป็นการบังคับให้คนของ Volkswagen ต้องเดินตามรอยว่าเขาทำได้อย่างไร อีกทั้ง Volkswagen ก็ยังถามตัวเองอยู่เสมอว่า Elon เก่งกว่าตรงไหน และต้องทำอย่างไรจึงจะเอาชนะได้

Volkswagen ID.3

อย่างไรก็ตาม Jost ระบุว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Tesla ทำสิ่งต่างๆ ได้ดีกว่าเป็นเพราะ Tesla ไม่มี "รากฐานเก่าๆ" ในขณะที่องค์กรเก่าแก่อย่าง Volkswagen นั้นจะเปลี่ยนอะไรก็ลำบาก แต่ Tesla ตั้งบริษัทมาก็เริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเลยและโฟกัสกับเป้าหมายนี้อย่างเดียว เลยทำให้รถ Tesla มีประสิทธิภาพสูงและมีแบตเตอรี่ที่ดี

สิ่งที่ Volkswagen น่าจะแข่งกับ Tesla ได้คือราคา โดยพวกเขาจะผลิตรถที่คนทั่วไปซื้อได้ ไม่ใช่เฉพาะเศรษฐีอย่างเดียว (We don't build cars for millionaires, but for millions.) ซึ่งต้องทำให้คนทั่วไปที่อยากซื้อรถธรรมดามากๆ อย่าง Volkswagen Golf ที่ราคา 28,000 ถึง 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ เปลี่ยนใจมาซื้อ ID.3 ที่ราคาใกล้เคียงกันได้

Volkswagen ID.3

ขณะนี้ ID.3 มียอดสั่งจองตั้งแต่เดือนพฤษภาคมแล้วกว่า 30,000 คัน ทั้งที่ยังไม่เคยเห็นรถเลย และ 75% ของยอดจองเป็นลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยใช้ Volkswagen มาก่อน

จากนี้ก็เป็นยุคสมัยใหม่ของ Volkswagen ซึ่งยังต้องมีอะไรให้ทำอีกมาก เช่นจุดกระแสรถยนต์ไฟฟ้าให้ติด อย่างน้อยก็ในเยอรมนีเอง

ที่มา - Business Insider
รูปทั้งหมดโดย Volkswagen

Blognone Jobs Premium