พาเที่ยวงาน Tokyo Game Show 2019

by KnightBaron
16 September 2019 - 16:41

ผ่านไปอีกครั้งกับนิทรรศการเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น Tokyo Game Show 2019 โดยในปีนี้งานจัดขึ้นเมื่อวันที่ 12-15 กันยายนที่ผ่านมา ณ Makuhari Messe เช่นเคยครับ สำหรับปีนี้มีบริษัทมาร่วมงานทั้งสิ้น 655 บริษัท (น้อยกว่าปีที่แล้ว 13 บริษัท) และมีผู้ร่วมงานตลอดสี่วันรวมทั้งสิ้น 262,075 คน (น้อยกว่าปีที่แล้วราว 36,000 คน) แม้ตัวเลขจะเงียบเหงากว่าปีที่แล้ว แต่บรรยากาศภายในงานก็ยังคงคึกคักเช่นเคยครับ ปีนี้ผมมีโอกาสไปร่วมงานสองวัน คือวันที่ 13 ซึ่งเป็น Business Day และวันที่ 15 ซึ่งเป็น Public Day ครับ

คำเตือน: ภาพประกอบเยอะมาก

PlayStation

ปีนี้ PlayStation ก็จัดเต็มเช่นเคย มีเกมใหม่จากแทบทุกค่ายมาให้ลองเล่นครับ โดยเกมที่ได้รับความนิยมสูงสุดแน่นอนว่าเป็นเกม Final Fantasy VII Remake ครับ ซึ่งผู้เขียนมีโอกาสได้ไปทดลองเล่นมาด้วย (อ่านพรีวิวได้ที่นี่)

ในส่วนของตัวบูทนั้น เกมที่เน้นโปรโมทเป็นพิเศษในปีนี้คือ Final Fantasy VII Remake, Death Stranding และ Nioh 2 ครับ หน้าบูทมี Photo Spot ให้ถ่ายรูปกับ Buster Sword ซึ่งก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และอีกจุดให้ถ่ายรูปกับมาสคอทของเกม Nioh 2 ซึ่งไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ (ฮา)


ทางฝั่ง Death Stranding นั้นเป็น Mini Theater ให้ชม Trailer ใหม่ของเกม นอกจากนี้ข้าง ๆ กันนั้นยังมีฟิกเกอร์สามีและลูกของโคจิมะ Mads Mikkelsen กับเด็กทารกปริศนาอีกด้วยครับ



ข้อมูลเปิดเผย: ผู้เขียนเป็นพนักงานของบริษัท Sony ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Sony Interactive Entertainment เจ้าของแบรนด์ PlayStation แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับทาง PlayStation แต่ประการใด

Sega และ Atlus

ถัดมาข้าง ๆ PlayStation เป็นบูทของ Sega และ Atlus ซึ่งเป็นแบรนด์ลูกของ Sega ครับ ปีนี้มีเรื่องให้ประหลาดใจ คือเราได้เห็น Mario ในงาน Tokyo Game Show ด้วยครับ (ปกติ Nintendo ไม่ร่วมงาน) เนื่องจากเกมที่ Sega ตั้งใจขายที่สุด (แต่ดูจะได้รับความสนใจน้อยที่สุด) คือ Mario & Sonic at the Olympic Games Tokyo 2020 ซึ่งเป็นเกมรวมกีฬาสำหรับเครื่อง Nintendo Switch ที่ทำมาต้อนรับกีฬา Olympic ที่จะจัดขึ้นในปีหน้าครับ

อีกเกมที่ดูตั้งใจขายมากคือ Shin Sakura Taisen ครับ ซึ่งเป็นเกมใหม่ในซีรีส์ Sakura Taisen หลังจากห่างหายไปนานถึง 14 ปี แต่คราวนี้เปลี่ยนแนวจากเกมจีบสาววางแผนการรบ มาเป็นแนว Character Action ตามสมัยนิยมครับ เนื่องจากนางเอกน่ารักถูกใจ แถมพากย์โดยอายะเนลความน่าสนใจจากแนวเกมที่เปลี่ยนไป ผมก็ไม่พลาดที่จะไปลองเล่นครับ


เดโมที่ผมได้ลองเล่นแบ่งเป็น 2 ส่วน พาร์ทแรกเป็นแนว RPG เดินคุยสำรวจเมือง แต่ตัวละครขยับได้เยอะ และมีการเปลี่ยนมุมกล้องเรื่อย ๆ ดูสนุกเหมือนเป็นอนิเม ไม่แข็ง ๆ เป็นตุ๊กตากระดาษครับ ส่วนพาร์ทหลังเป็น Beat-em-up Character Action (นึกถึง Devil May Cry หรือ Bayonetta) วิ่งเข้าไปในห้อง แล้วก็โดนขังจนกว่าจะจัดการหมด Wave อะไรทำนองนี้ แต่การบังคับยังรู้สึกลอยๆ แล้วก็เน้น Button Mashing ไปหน่อย ไม่ค่อยใช้สมองอะไรมาก น่าผิดหวังเล็กน้อย แต่ทุกอย่างเราให้อภัยได้ เพราะอายะเนลครับ

เกมถัดไปไม่ต้องขายเยอะก็ไฮป์กันทั่วบ้านทั่วเมือง Persona 5 The Royal ครับ ด้านข้างบูทมีแสตนด์ Persona Arsene ให้ถ่ายรูป และภายในบูทมีตัวเกมให้ลองเล่นดันเจี้ยนใหม่ได้ แต่เนื่องจากระบบไม่แตกต่างจากภาคที่แล้วสักเท่าไหร่ ผมจึงไม่ได้ไปลองเล่นครับ


เกมที่ดูจะไม่ค่อยตั้งใจขายสักเท่าไหร่ เอาไปซ่อนอยู่ด้านข้างและด้านหลังบูท แต่ผมไฮป์มาก ๆ คือเกม 13 Sentinels: Aegis Rim ครับ เกมนี้พัฒนาโดย Vanilla Ware เจ้าของผลงาน Odin Sphere, Oboro Muramasa (Muramasa: The Demon Blade) และ Dragon Crown ครับ ซึ่งค่ายนี้ขึ้นชื่อเรื่องทำเกม 2D Side-scrolling Action ได้สวยงามและลื่นไหลมาก แต่สำหรับเกม 13 Sentinels นั้นเป็นเกมแรกของค่ายที่ฉีกออกมาเป็นเกมแนววางแผนการรบครับ


ขนาดของคนธรรมมา เมื่อเทียบกับหุ่นรบภายในเกม

ผมมีโอกาสได้ไปลองเล่นเกมนี้มาด้วยครับ โดยเดโมแบ่งเป็น 2 ส่วน (อีกแล้ว) พาร์ทแรกเป็นเกมเดินคุย (อีกแล้ว) 2 มิติ อาร์ทสุดอลังการตามสไตล์ค่ายนี้ ที่น่าสนใจคือมีตัวเลือก "คิด" ซึ่งคล้าย ๆ ให้คุยกับตัวเองในหัวข้อต่าง ๆ เพื่อเปิดบทสนทนาดำเนินเรื่องต่อไป ส่วนพาร์ทหลังเป็นเกมวางแผนการรบ ที่เล่นแล้วได้อารมณ์ Pacific Rim มาก ๆ ครับ สั่งการกองทัพหุ่นยักษ์ ต่อต้านการโจมตีจากเอเลี่ยน รวม ๆ ก็ค่อนข้างประทับใจครับ

นอกจากนี้เกมอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็มี Yakuza 7 ซึ่งเป็นภาคต่อของเกมที่เรียกได้ว่าเป็น Grand Theft Auto เวอร์ชันญี่ปุ่นครับ ที่น่าสนใจคือภาคนี้เราจะไม่ได้เล่นเป็น Kiryuu Kazuma อีกแล้ว เกมที่เอาหนุ่มกลัดมันขึ้นปก เราคงจะไม่พูดถึงมาก เอาเป็นว่าข้ามไปชมสิ่งที่น่าสนใจเลยก็แล้วกันครับ


Cyberpunk 2077

นอกจากการปรากฎตัวของ Mario แล้ว ที่น่าประหลาดใจไม่แพ้กันคือมีเกมจากฝั่งตะวันตกมาออกบูทใหญ่โตด้วยครับ นั่นคือเกม Cyberpunk 2077 จากค่าย CD Projekt Red ซึ่งมาออกบูทโปรโมทเกมนี้โดยเฉพาะ ใช้ชื่อเกมเป็นชื่อบูทเลย

ภายในบูทจัดฉาย Gameplay Trailer ตัวเดียวกับที่ฉายในห้องปิดในงาน E3 2019 แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นครับ ซึ่งก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามผิดคาดมาก ๆ

หน้าบูทมีมอเตอร์ไซค์จากในเกมให้ถ่ายรูปได้ครับ แต่ถ้าอยากขึ้นไปถ่ายรูปคู่กับมอเตอร์ไซค์ (และไม่ได้ชื่อโคจิมะ) ก็ต้องต่อคิวเข้าไปดู Trailer ก่อนครับ อ่อ.. ด้านหลังมอเตอร์ไซค์มีลายเซ็นต์ของ Keanu Reeves ที่มาเซ็นต์ไว้ตอนวันแรกของงานด้วยครับ ผมไม่ได้ไปวันนั้น น่าเสียดายมาก ๆ


Koei Tecmo

ปีนี้ Koei Tecmo มีเกมเด่น ๆ อยู่ 2 เกม คือ Nioh 2 และ Atelier Ryza ครับ ซึ่งผมก็มีโอกาสได้ไปลองเล่นมาทั้ง 2 เกม

เริ่มกันที่ Nioh 2 ครับ พื้นที่เกือบครึ่งบูทถูกอุทิศให้เกมนี้ หน้าบูทมีโมเดลคนครึ่งอสูร ตัวละครหลักจากเกมภาคใหม่เรียกแขกอยู่ เท่มาก ๆ ครับ ส่วนพื้นที่ด้านข้างบูทเป็นโซนทดลองเล่นเกม ซึ่งก็มีเครื่องให้ลองเล่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะมากกว่าที่ควรจะเป็นด้วยซ้ำ ดูคนสนใจน้อยจนน่าใจหาย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับอีกเกมข้าง ๆ ต่อคิวไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ได้เล่นแล้วครับ


ระบบการต่อสู้ของภาคนี้ค่อนข้างคล้ายกับภาคแรก แต่นอกเหนือไปจากอาวุธ อุปกรณ์นินจา และเครื่องรางต่าง ๆ แล้ว ภาคนี้เรายังสามารถใช้สกิลอสูร (เช่นเรียกแขนยักษ์มาทุบ) ได้อีกด้วย นอกจากนั้นเมื่อเราเก็บเกจเต็มหลอด เราจะสามารถแปลงร่างเป็นอสูรได้ชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วก็คล้าย ๆ กับการใช้สัตว์เทพในภาคที่แล้วครับ โดยรวมแม้ว่ารูปแบบการเล่นจะเหมือนกับภาคแรกมากไปสักหน่อย แต่ความสนุกก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงครับ

สำหรับ Atelier THICC Atelier Ryza นั้น แม้พื้นที่จะน้อยกว่า แต่ได้รับความสนใจเยอะกว่า Nioh 2 มาก ๆ ครับ (ดาบหรือจะสู้หน้าอกและต้นขา) ด้านหน้าโซนนี้มีฟิกเกอร์ Ryza ขนาดเท่าตัวจริง ที่มีคนแวะเวียนเข้ามาถ่ายรูปอย่างไม่ขาดสาย เรียกว่าเป็นไฮไลท์ที่สุดของบูท เป็นที่กล่าวขานกันในโลกโซเชี่ยลของญี่ปุ่นครับ นอกจากดีไซน์ของ Ryza เองที่เซ็กซี่ชวนฝันมากกว่านางเอกจากภาคก่อน ๆ (ปกติดีไซน์สาวปรุงยาจะเน้นไปทางน่ารัก น่าทะนุถนอม) พอได้มาเห็นตัวขนาดเท่าคนจริงแล้ว มันชวนให้หวั่นไหวเสียเหลือเกินครับ



ในส่วนของตัวเกมที่ผมได้ลองเล่นมานั้น UI ของระบบปรุงยาในภาคนี้ก็พัฒนาขึ้นตามกาลเวลา ไม่มีอะไรหวือหวาเป็นพิเศษ แต่ที่แตกต่างจากภาคที่แล้ว ๆ มาคือระบบต่อสู้ ซึ่งมีความเป็น Real Time กว่าแต่ก่อนมากครับ เทิร์นของแต่ละตัวละครทั้งฝ่ายเรา และฝ่ายศัตรูจะวิ่งไปพร้อม ๆ กัน เมื่อถึงเทิร์นของเรา จะไม่มีการหยุดเวลาให้คิดออกคำสั่ง แต่เวลาจะวิ่งไปเรื่อย ๆ ระหว่างที่เรากำลังเลือก Action ครับ นอกจากนี้ Ryza ก็ดูจะบู๊เก่งกว่านางเอกภาคก่อน ๆ ที่มีหน้าที่ปาไอเทมเป็นหลักด้วยครับ

Square Enix

ปีนี้เกมที่เด่นที่สุดของ Square Enix ก็หนีไม่พ้น Final Fantasy VII Remake ครับ แถวทดลองเล่นเกมนี้ถึงกับล้นออกมานอกฮอลเลยทีเดียว หน้าบูทมี Buster Sword จัดแสดงอยู่ (อันที่ถือถ่ายรูปได้ที่ PlayStation นั่นแหละ) และมีมอเตอร์ไซค์ของ Cloud ให้ต่อคิวถ่ายรูปครับ นอกจากนี้ก็มีเกมอื่น ๆ เช่น Marvel’s Avengers, Final Fantasy Crystal Chronicle Remastered Edition, Final Fantaxy XIV และ Trials of Mana มาให้ทดลองเล่นกันตามระเบียบครับ แต่ทุกอย่างดูกร่อย ๆ เทียบรัศมี Final Fantasy VII Remake ไม่ได้เลยครับ





Bandai Namco

หากไม่นับ PlayStation ที่รวบรวมเกมจากหลาย ๆ ค่ายมาไว้ด้วยกัน ปีนี้ Bandai Namco น่าจะเป็นค่ายที่เอาเกมมาให้ลองเล่นมากที่สุดครับ

ส่วนตัวเกมผมคิดว่าน่าสนใจที่สุดของบูทนี้คือ Sword Art Online: Alicization Lycoris ที่เพิ่งเปิดตัว Gameplay เมื่อไม่นานมานี้ครับ Graphic ของเกมพัฒนาขึ้นจากภาคที่แล้วมาก ๆ ที่สำคัญในเดโม (ที่ผมไปต่อคิวเล่นไม่ทัน T_T) เราสามารถเล่นเป็นนางเอกของเรื่องคือ Alice ได้ด้วยครับ (เปิดวอร์!)

ส่วนจัดแสดงอื่น ๆ ภายในบูทค่อนข้างกระจัดกระจายครับ หน้าบูทมี Gundam Wing Zero และ Gundam Barbatos มาโปรโมต SD Gundam G Generation Cross Rays นอกจากนี้ เกมที่น่าสนใจอื่น ๆ ก็มี Code Vein (ที่ผู้เขียนไฮป์มา 2 ปีแล้ว สิ้นเดือนนี้จะได้เล่นสักที), Dragon Ball Z: Kakarot, และ One Piece: Pirate Warriors 4 และเกมมือถืออีกจำนวนหนึ่งครับ





Capcom

ปีนี้ Camcom ก็มาแบบยิ่งใหญ่เช่นเคยครับ เกมที่เด่นที่สุดคือล่าแย้โลกเยือกแข็ง Monster Hunter World: Iceborne ที่มีมอนส์เตอร์และชุดเกราะขนาดเท่าตัวจริงมาให้ถ่ายรูปครับ อีกทั้งยังมีแจกโปสเตอร์ขนาด A2 อย่างดี ให้คนที่เดินผ่านไปมาทุกคน ไม่ต้องต่อคิวอะไรทั้งสิ้นครับ

ด้านหน้าบูทอีกข้างหนึ่งเป็นของ Project Resistance ซึ่งเป็นเกม Multiplayer แนวร่วมมือกันเอาตัวรอด (นึกถึง Dead by Daylight หรือ Friday the 13th: The Game) ในโลกของ Biohazard ครับ



อีกเกมที่น่าสนใจมาก แต่ดันไปซ่อนไว้อยู่ซะหลังบูทจนผมเกือบข้ามไปคือ Rockman Zero/ZX Double Hero Collection ครับ ถึงจะดูหากินกับของเก่าไปหน่อย แต่ถ้าเป็นแฟน Rockman ก็ควรมีไว้ใน Collection ครับ

ส่งท้าย

จริง ๆ แล้วภายในงานยังมีโซนอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่นเวที e-Sports หรือโซน Indie Game ซึ่งก็มีเรื่องให้เล่าได้ไม่หวาดไม่ไหวครับ แต่เพื่อไม่ให้บทความเยิ่นเย้อไปกว่านี้ ผมขออนุญาตเล่าถึงแค่บูทจากค่ายเกมใหญ่ ๆ เท่านั้นครับ

ผมหวังว่าบทความนี้จะสามารถถ่ายทอดบรรยากาศความตื่นเต้นจากภายในงานให้ผู้อ่านทุกท่านได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ สำหรับภาพประกอบทั้งหมด รวมถึงส่วนที่ยังไม่ได้เขียนถึง สามารถเข้าไปดูได้ที่อัลบัม Tokyo Game Show 2019 และต้องขอขอบคุณช่างภาพเฉพาะกิจทั้ง 2 ท่านคือคุณ Pannawit และคุณ Axess มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

สุดท้ายนี้ผมต้องขอขอบคุณ Blognone ที่ให้โอกาสผม (และทีมงาน) ได้เป็นตัวแทนไปร่วมงานนี้ครับ แล้วพบกันใหม่ปีหน้าครับ

หมายเหตุ: ตอนแรกผมตั้งใจจะแบ่งบทความออกเป็น 2 ส่วน และได้โพสต์แค่ครึ่งแรกไปก่อน แต่เนื่องจากยังไม่ถูกเอาขึ้นหน้าเว็บ ผมเลยขอรวมทั้ง 2 ส่วนเป็นบทความเดียวเลยครับ

Blognone Jobs Premium