ประเด็นเรื่อง Huawei โดนแบน ไม่สามารถมีแอพของกูเกิลติดตั้งบน Mate 30 ได้ เรื่องนี้ Richard Yu ซีอีโอของ Huawei Consumer ก็แถลงบนเวทีถึงทางออกที่บริษัทเตรียมเอาไว้ คือการผลักดัน Huawei Mobile Services (HMS) ขึ้นมาแทน Google Mobile Services (GMS)
Huawei Mobile Services ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเป็นสิ่งที่ทำอยู่แล้วในประเทศจีน นั่นคือการสร้างแอพและบริการของ Huawei ขึ้นมาใช้เอง ไม่ว่าจะเป็นช่องทางเผยแพร่แอพ (AppGallery) หรือแอพพื้นฐานอื่นๆ เช่น Browser, Cloud, Themes, Music, Video, Assistant เวอร์ชันของตัวเอง
Richard Yu บอกว่าตอนนี้มีผู้ใช้งาน HMS รวมทั่วโลก 570 ล้านคนต่อเดือน (global MAU) โดยแอพบางตัวอย่าง AppGallery หรือ Browser ก็เปิดให้ใช้งานใน 170 ประเทศแล้ว และกำลังผลักดัน Music, Video, Assistant ออกมาทำตลาดนอกจีนด้วย
HMS แบ่งออกเป็นส่วนของแอพ (HMS Apps) และส่วนของบริการ (HMS Core & Capacities) ที่เทียบได้กับ Google Play Services ซึ่งตอนนี้มี API ให้ใช้งาน 885 ตัว และมีนักพัฒนา "ทั่วโลก" ใช้งานอยู่มากกว่า 1 ล้านคน (ไม่บอกว่าในจีนมีเท่าไร บอกแต่ตัวเลขรวม)
ตัวอย่างบริการ HMS Core & Capacities ที่เทียบเท่า Google Play Services ได้แก่ Account Kit, Map Kit, Location Kit, Game Service, In-App Purchase เป็นต้น โดยให้ตัวเลขว่ามีแอพกว่า 45,000 ตัวเรียกใช้งาน API เหล่านี้เรียบร้อยแล้ว (ไม่บอกสัดส่วนในจีน-นอกจีนเช่นกัน)
Richard Yu ยังบอกว่า Huawei ยังทุ่มเงินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อผลักดัน HMS ทั้งในแง่ผลตอบแทนกับนักพัฒนาแอพ และช่วยด้านการตลาดให้ด้วย แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดไปมากกว่านี้ว่าทำอะไรบ้าง
แนวทางการสร้างบริการของตัวเองขึ้นมาใช้แทน Google Play Services ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นแค่ในจีนเท่านั้น เพราะในโลกตะวันตกเองก็มีตัวอย่างคือ Fire OS ของ Amazon ที่เป็นการ fork Android และสร้างบริการ Appstore APIs & Services ของตัวเองขึ้นมาทดแทน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
ตารางเปรียบเทียบจาก Amazon