ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโซนี่อเมริกา (SCEA) ส่งจดหมายไปยังนักข่าวซึ่งในที่นี้คือ Engadget ให้ความเห็นกรณีนินเทนโดกำลังจะเปิดตัว DSi ในอเมริกาพรุ่งนี้ว่า
DSi นั้นไม่แสดงให้เห็นถึงความพยายามของนินเทนโดในการจับตลาดเกมเมอร์กลุ่มอื่นๆ นอกเหนือไปจากกลุ่มเด็กที่เป็นจุดแข็งของนินเทนโด เกมเมอร์กลุ่มนี้กำลังถูกทอดทิ้งและการมาถึงของ Dsi ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เมื่อเทียบกันแล้ว PSP มีเกมระดับบล็อคบัสเตอร์จำนวนมากจากพันธมิตรของเราที่เตรียมจะวางขายในปีนี้ เกมเหล่านี้ต่างก็จับตลาดเกมเมอร์ทุกกลุ่มไม่เฉพาะแค่กลุ่มเด็ก ตัวอย่างเช่น Rock Band Unplugged (MTV Games), Assassin's Creed (Ubisoft), Dissidia Final Fantasy (Square Enix), Hannah Montana (Disney) สำหรับเกมจาก SCEA เองก็มีทั้ง LittleBigPlanet และ MotorStorm และเราเองก็กำลังเตรียมพร้อมสำหรับเกมที่ขายผ่านช่องทางดาวน์โหลดทั้งที่เป็นเกมใหม่และเกมจาก PS1
ตามข่าวแล้ว เจ้าของความเห็นที่ส่งให้นักข่าวคือ John Koller ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดฮาร์ดแวร์ของ SCEA ต้นฉบับภาษาอังกฤษอยู่ด้านใน
ตัวเลขจาก VG Chartz สำหรับเปรียบเทียบ DS ขายได้ 100.85 ล้านเครื่องทั่วโลก ส่วน PSP ขายได้ 46.51 ล้าน ถ้าเอาเฉพาะยอดขายในสหรัฐจะเป็น 33.47:16.65 ครับ
ที่มา - Engadget
If Nintendo is really committed to reaching a broader, more diverse audience of gamers beyond the "kids" market that they've always engaged, there isn't much new with the DSi to support that. Significant gamer demographic groups are being ignored, and there continues to be limited opportunities for games from external publishers to do well on the DSi. Compare that with the PSP platform, where we have many blockbuster franchises from our publishing partners launching this year, representing a wide variety of genres and targeting diverse demographics. Games such as Rock Band Unplugged from MTV Games, Assassin's Creed from Ubisoft, Dissidia Final Fantasy from Square Enix, and Hannah Montana from Disney demonstrate the commitment that publishers have to the PSP. From our own first-party studios, we're launching unique versions of LittleBigPlanet and MotorStorm, and we're also planning a steady stream of downloadable games -- both new titles and PSone classics -- to add to the content that PSP owners can already purchase wirelessly through PlayStation Store.