รู้จักกับ Refinitiv บริษัทเทคโนโลยีการเงินและการจัดการความเสี่ยงระดับโลก

by advertorial
25 November 2019 - 09:47

Refinitiv อาจไม่ค่อยเป็นที่คุ้นหูกับคนทั่วไปนัก แต่สำหรับคนที่ทำงานสายการเงิน ธนาคาร เทรดเดอร์หรือคนที่ทำงานกองทุน น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะ Refinitiv ให้บริการแพลตฟอร์มการเงินและการจัดการความเสี่ยงที่ใช้ใน 190 ประเทศทั่วโลก หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าหนึ่งในทีมที่พัฒนาและดูแลแพลตฟอร์มของ Refinitiv คือทีมงานของ Refinitiv ประเทศไทยนี่เอง ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Refinitiv และทีมงานเบื้องหลังกัน

Refinitiv คืออดีตหน่วยธุรกิจส่วนที่ดูแลโปรดักส์ด้านการเงินและการจัดการความเสี่ยงของ Thomson Reuters ซึ่งเข้ามาตั้งสำนักงานในประเทศไทยเพื่อทำหน้าที่เป็นหนึ่งใน Technology Center สำคัญของบริษัทมาตั้งแต่ปี 2001 ก่อนที่ธุรกิจส่วนนี้จะแยกตัวออกมาจาก Thomson Reuters เป็นบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ Refinitiv เมื่อเดือนตุลาคมปี 2018

ปัจจุบันสำนักงานของ Refinitiv ในไทยก็ยังคงเป็นหนึ่งใน Technology Center หลักที่ทำหน้าที่พัฒนาแพลตฟอร์มด้านการเงินและการจัดการความเสี่ยงของบริษัท ซึ่งสะท้อนความไว้วางใจของบริษัทที่มีต่อทีมพัฒนาและทักษะของคนไทย โดยปัจจุบัน Refinitiv ประเทศไทยมีทีมพัฒนา Software ทีมดูแล Data Center และ Platform ของบริษัทกว่า 500 คน

Refinitiv ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มด้านการเงินและการจัดการความเสี่ยงแถวหน้าของโลก

เมื่อนึกถึงธุรกิจของ Thomson Reuters ที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักน่าจะเป็นสำนักข่าว Reuters ซึ่งเป็นสำนักข่าวแถวหน้าของโลก แต่อันที่จริง Reuters เป็นเพียงหน่วยธุรกิจที่เล็กที่สุดของ Thomson Reuters ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของ Thomson Reuters ในขณะนั้นคือหน่วยธุรกิจด้านเทคโนโลยีการเงินและการจัดการความเสี่ยง (Financial & Risk Management) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ก่อนตั้งมาตั้งแต่ปี 1851 หรือกว่า 160 ปีมาแล้ว

เมื่อหน่วยธุรกิจนี้แยกตัวออกมาเป็นบริษัท Refinitiv ในปี 2018 Thomson Reuters ยังถือหุ้นอยู่ 45% และได้ Blackstone ซึ่งเป็นบริษัท Asset Management ระดับโลกเข้ามาถือหุ้นอีก 55% ซึ่งการ spin off ออกมาเป็นบริษัทใหม่นี้นับเป็นดีลยักษ์ของวงการ โดยมูลค่าหุ้น 55% ของธุรกิจ Financial & Risk ที่ Thomson Reuters ขายให้กับ Black Stone มีมูลค่าถึง 2 หมื่นล้านดอลล่าห์ ทำให้ Refinitiv กลายเป็น FinTech น้องใหม่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มาพร้อมรากฐานทางธุรกิจที่ยาวนานกว่า 160 ปี

ปัจจุบัน Refinitiv เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสายการเงินและการจัดการความเสี่ยง มีแพลตฟอร์มที่ให้บริการหลักๆ สามด้าน คือแพลตฟอร์มที่ให้บริการข้อมูลการเงินการลงทุน แพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายเงินตราระหว่างประเทศ และ แพลตฟอร์มสำหรับจัดการความเสี่ยง

ในปัจจุบัน Refinitiv มีลูกค้าอยู่ในกว่า 190 ประเทศทั่วโลก ทั้งนักลงทุน ธนาคาร บริษัท และสถาบันขนาดใหญ่กว่า 40,000 องค์กร และมีฐานข้อมูลด้านการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลกซึ่งจัดเก็บข้อมูลด้านการเงินหลากหลายประเภทย้อนหลังไปหลายสิบปี โดยในแต่ละวันจะมีข้อมูลจากตลาดหุ้นทั่วโลกเข้ามาบันทึกในฐานข้อมูลถึงราวๆ 90 ล้านเรคคอร์ตต่อวินาที

Eikon แฟลตฟอร์มการเงินระดับโลกกับฝีมือคนไทย

Refinitiv มีแพลตฟอร์มที่ให้บริการข้อมูลข่าวสารทางการเงินที่หลากหลายกว่า 200 ประเภท หนึ่งในโปรดักส์ที่เป็นตัวชูโรงคือ Eikon ซึ่งเป็นเหมือน Search Engine ข้อมูลสำคัญทุกอย่างในโลกการเงิน เช่น ราคาซื้อขายหุ้น น้ำมัน ทองคำ อัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างๆ ดัชนีทางเศรษฐกิจ ไปจนถึงข่าวทั่วโลก ซึ่งนักลงทุนสามารถเรียกดูข้อมูลได้ทั้งแบบเรียลไทม์และแบบย้อนหลัง อย่างข้อมูลของบริษัทตลาดหลักทรัพย์ในไทย ก็มีตั้งแต่การเปิดตลาดครั้งแรกในปี 2518 (1975) และมีครบ 500 กว่าตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเชิงวิเคราะห์เทรนด์และข้อแนะนำสำหรับการลงทุนด้วย

โปรดักส์ชูโรงอีกตัวของ Refinitiv คือสาย Trading เช่น FXall, FXT ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ในการซื้อขายเงินตราระหว่างประเทศ โดยปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายเงินตราระหว่างประเทศที่ลูกค้าทั่วโลกทำผ่านแพลตฟอร์มของ Refinitiv มีปริมาณกว่า 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ซึ่งเทียบได้กับ GDP ของหลายประเทศเลยทีเดียว

และโปรดักส์อีกสายที่น่าสนใจคือแพลตฟอร์มด้านการความเสี่ยงอย่าง World Check สำหรับสำหรับการจัดการความเสี่ยงและป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน โดยมีฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือระบบตรวจสอบประวัติบุคคลและองค์กร (Know Your Customer: KYC) ซึ่งมีข้อมูลที่ครอบคลุมการใช้งานทั่วโลก ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากสำหรับการป้องกันและตรวจสอบอาชญากรรมทางการเงิน การคอร์รัปชั่น การฟอกเงิน และการก่อการร้าย ซึ่งในปี 2018 Refinitiv ก็ได้รับเลือกให้เป็นบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีต่อต้านการฟอกเงินที่ดีที่สุดจาก Central Banking’s FinTech & RegTech Global Award ด้วย

คุณวิชยา จันทร์เลิศเลขา Development Director ของ Refinitiv เล่าว่าแพลตฟอร์มของ Refinitiv เหล่านี้ถูกพัฒนาและดูแลโดยคนไทยเป็นสัดส่วนถึงราว 60-70% โดยถึงแม้ Refinitiv จะมีทีมพัฒนา Software อยู่ในหลายประเทศ เช่น อเมริกา อังกฤษ จีน อินเดีย แต่ไทยก็เป็นหนึ่งใน Strategic Technology Center หลักของ Refinitiv และได้รับมอบหมายให้พัฒนาแพลตฟอร์มที่สำคัญของบริษัทหลายตัว หากจะบอกว่าความรับผิดชอบที่ทีม Technology ของไทยสร้างมีอิมแพคในระดับโลกก็ไม่เกินความจริงเลย

คุณวิชยา จันทร์เลิศเลขา, Development Director

Refinitiv พื้นที่สำหรับคนน้ำไม่เต็มแก้ว

แม้จะเพิ่งแยกตัวออกมาเป็นบริษัทใหม่อย่างเป็นทางการในปี 2018 แต่ด้วยพื้นฐานการทำธุรกิจที่ยาวนานตั้งแต่สมัยอยู่กับ Thomson Reuters ทำให้ Refinitiv เป็นที่ทำงานที่รวมข้อดีของทั้งองค์กรขนาดใหญ่กับบริษัทแบบสตาร์ทอัพเข้าไว้ด้วยกัน นั่นคือการมีระบบการพัฒนาและจัดการ Software ที่มีมาตรฐานระดับโลก เป็นระบบ และชัดเจน มีทีม Technology ขนาดใหญ่ที่รวมรวมบรรดา Tech Expert ในหลายประเทศที่ทำงานและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน และในขณะเดียวกันก็มีวัฒนธรรมการทำงานที่เน้นความสนุก รวดเร็ว ให้ความสำคัญกับการการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ รวมถึงให้ความสำคัญกับการรับฟังและเคารพความเห็นของคนอื่น ถึงจะเป็นน้องจบใหม่เพิ่งมาเข้าทีมแต่ถ้ามีไอเดียเจ๋งๆ ก็สามารถเดินไปแชร์กับพี่ระดับ Director ได้เลย

สิ่งสำคัญของการเป็นพนักงาน Refinitiv คือการมี Growth Mindset พร้อมจะเรียนรู้ตลอดเวลา เพราะแนวคิดด้านการพัฒนาคนของ Refinitiv คือบริษัทให้ความสำคัญกับการช่วยให้พนักงานเติบโตและเก่งขึ้นเรื่อยๆ แม้พนักงานอาจจะไม่ได้ทำงานกับบริษัทตลอดไปแต่ในระหว่างที่ทำงานที่นี่ก็ต้องได้รับการพัฒนาและเก่งขึ้น ทั้งจากการทำงานที่ท้าทายและมีโจทย์ใหม่ๆ ในสเกลงานระดับโลก เข้ามาให้ได้ทำเรื่อยๆ รวมถึงการเข้า Training และโปรแกรมพัฒนาทักษะและประสบการณ์ต่างๆ ที่บริษัทมีให้

การรับสมัครพนักงานของ Refinitiv ไม่ได้ดูที่เกรดหรือมหาวิทยาลัย) และไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในสายการเงินมาก่อน แต่จะดูที่ความสามารถกับ Mindset เป็นหลัก เป็นคนที่เปิดรับกับความท้าทายใหม่ๆ กล้าคิด กล้าทำ กล้าตั้งคำถามเพื่อให้เกิดการพัฒนาและสร้างสรรค์ใหม่ๆ เพื่อให้ Refinitiv สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้ยังต้องมี Mindset ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพงาน เพราะด้วยความที่เป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ด้านการเงินที่นักลงทุนและองค์กรต่างๆ ทั่วโลกใช้ในการตัดสินใจลงทุนและทำธุรกิจ แพลตฟอร์มที่ลูกค้าใช้ต้องสามารถรองรับการรับส่งข้อมูลปริมาณมหาศาลได้ถูกต้องแม่นยำในเวลาที่รวดเร็วที่สุด โดยปัจจุบันในหนึ่งวินาที Platform ของ Refinitiv ต้องส่งข้อมูล (data feeds) ถึง 63 ล้านอัพเดท และความเร็วในการรับส่งข้อมูล real-time data feed อยู่ในระดับ Nano Second ดังนั้นการให้ความสำคัญกับคุณภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

สวัสดิการที่ตอบโจทย์ชีวิตพนักงาน

หนึ่งในจุดเด่นของการดูแลพนักงานที่ Refinitiv คือมีสวัสดิการที่ครอบคลุมแทบทุกด้านของชีวิตพนักงาน ทั้งด้านการเงิน สุขภาพ ครอบครัว การพัฒนาตัวเอง การบาลานซ์ชีวิตการทำงาน ความเชื่อทางศาสนา ฯลฯ เช่น สามารถขอกู้เงินแบบไม่มีดอกเบี้ยได้จากบริษัท ขอเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารในดอกเบี้ยพิเศษ มีเงินขวัญถุงเป็นของขวัญเมื่อพนักงานแต่งงาน เบิกค่าฟิตเนส ค่านวดได้ มีวันลาพิเศษสำหรับทำงาน CSR ที่สนใจหรือไปปฏิบัติศาสนกิจ นอกจากนี้บริษัทยังดูแลไปถึงครอบครัวของพนักงานด้วย โดยจัดสวัสดิการด้านสุขภาพที่ครอบคลุมคู่สมรสและลูกของพนักงานด้วย

ในด้านการพัฒนาตัวเอง บริษัทมีโปรแกรมพัฒนาพนักงานที่หลากหลาย จัดเต็มทั้งความรู้ด้าน technical ภาษาอังกฤษ และ soft skill ต่างๆ ที่สำคัญกับการทำงาน เช่น การฝึกนำเสนองาน ทักษะการเป็นผู้นำ ฯลฯ มีผู้เชี่ยวชาญทั้งในและนอกบริษัทมาแชร์ความรู้ มีคอร์สออนไลน์และอีบุ๊คให้ใช้ฟรี มีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายคอร์สเรียนหรือการสอบ Certificate ต่างๆ เช่น AWS และในด้านภาษาอังกฤษ บริษัทก็จ้างครูเจ้าของภาษามาสอนให้ถึงออฟฟิศ

ส่วนในด้านเวลาการทำงาน ด้วยความที่บริษัทให้ความสำคัญกับเนื้องานและผลงานเป็นหลัก (performance driven) รวมถึงการที่พนักงานได้ทำงานกับเพื่อนร่วมงานในหลายประเทศ ทำให้เวลาการทำงานเป็นแบบยืดหยุ่น ไม่มีการตอกบัตร พนักงานสามารถบริหารเวลาการทำงานของตัวเองได้ตามความจำเป็นและไลฟ์สไตล์ เช่น ถ้าต้องมีประชุมกับทีมที่ต่างประเทศช่วงกลางคืน วันรุ่งขึ้นอาจจะมาทำงานสายขึ้น เข้างานเช้าออกเร็วเพื่อไปเรียนปริญญาโท ไปรับส่งลูก หรือบางคนขอทำงานจากบ้านในวันที่ต้องอยู่ดูแลสมาชิกในครอบครัวที่เจ็บป่วย

ทิ้งท้ายก่อนจบ

ในโลกการเงิน ผลิตภัณฑ์ของ Refinitiv สร้างอิมแพคและมีบทบาทในการช่วยให้สถาบันการเงินและนักลงทุนสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจด้านการลงทุนและทำธุรกิจได้อย่างมาก ที่น่าภูมิใจคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแพลตฟอร์มของ Refinitiv ที่ลูกค้าทั่วโลกใช้งานก็คือทีมคนไทยที่ Refinitiv ประเทศไทยนี่เอง

หลังการรีแบรนด์ Refinitiv ประเทศไทยยังคงเป็น Strategic Technology Center ที่สำคัญมากของ Refinitiv และมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปี 2019 Refinitiv ประเทศไทยรับพนักงานเพิ่มไปแล้วกว่า 150 ตำแหน่ง และมีเป้าหมายจะรับพนักงานสาย Tech เพิ่มทั้งหมดกว่า 200 ตำแหน่งภายในปีหน้า หากใครสนใจจะร่วมงาน ลองแวะเข้าไปดูตำแหน่งว่างในเว็บของ Refinitiv กันดูได้ครับ

ใครอยากรู้จักชีวิตการทำงานที่ Refinitiv ประเทศไทยมากกว่านี้ ลองเข้าไปดู VDO แนะนำชีวิตการทำงานที่คลิปด้านล่าง

ติดตามกิจกรรมและชีวิตการทำงานสนุกๆ ที่ Refinitiv ได้ที่เพจ Life at Refinitiv Thailand

Blognone Jobs Premium