บริษัทวิจัย Comparitech รายงานถึงการใช้ข้อมูลชีวมิติ (biometric) ในประเทศต่างๆ พร้อมกับกระบวนการปกป้องผู้ใช้ในประเทศเหล่านั้น พบจีนได้คะแนนสูงสุดแปลว่ามีการใช้ข้อมูลชีวมิติอย่างหนักในหลายด้านขณะที่กระบวนการคุ้มครองเจ้าของข้อมูลนั้นต่ำ
แบบสำรวจของ Comparitech สำรวจว่ามีการใช้งานข้อมูลชีวมิติเพื่องานประเภทใดบ้าง ได้แก่ การทำบัตรประชาชน, หนังสือเดินทาง, เปิดบัญชีธนาคาร, และลงคะแนนเลือกตั้ง พร้อมกับถามว่ามีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลชีวมิติหรือไม่ ขณะที่คะแนนยังระบุถึงฐานข้อมูลระดับชาติว่ามีขนาดใหญ่เพียงใด, ใช้งานสำหรับตำรวจทั่วไปหรือไม่, กล้องวงจรปิดมีการใช้ระบบจดจำใบหน้า หรือติดตั้งเป็นการทั่วไปหรือไม่
จีนได้คะแนนเกือบเต็มในทุกมิติ เช่น กล้องวงจรปิดมีการใช้งานอย่างหนัก พร้อมระบบจดจำใบหน้า และมีการจำแนกชนกลุ่มน้อยเป็นการเฉพาะ โดยขาดคะแนนไปเพียงการใช้ข้อมูลชีวมิติเพื่อการลงคะแนนเลือกตั้งเท่านั้น
CompariTech ให้คะแนนจีนเป็นอันดับหนึ่ง (แย่ที่สุด) โดยรองลมมาคือมาเลเซีย, ปากีสถาน, สหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ นั้นยังไม่มีกฎหมายปกป้องข้อมูลชีวมิติระดับรัฐบาลกลาง แม้บางรัฐจะมีกฎหมายบังคับอยู่ในรัฐก็ตาม ประเทศที่ดีที่สุด เช่น ไอร์แลนด์ มีการสร้างข้อมูลอย่างจำกัดและกฎหมายคุ้มครองข้อมูลก็หนาแน่นยิ่งกว่า GDPR ของสหภาพยุโรปเสียอีก
เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของระบบกล้องวงจรปิดของจีนหลุดออกสู่สาธารณะแสดงให้เห็นว่าจีนใช้ระบบจดจำใบหน้าระบุเป้าหมาย เช่น ชนกลุ่มน้อย, คนติดยาเสพติด
ที่มา - South China Morning Post, CompariTech
ภาพโดย Pexels