กรุงศรี พาผู้ประกอบการดูเทคโนโลยีของจริงที่จีน ยกระดับธุรกิจไทยปรับตัวสู่ดิจิทัล

by sponsored
25 December 2019 - 12:05

การปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (digitalization) ทำให้อุตสาหกรรมและรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงองค์กรชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรมต้องปรับตัวและมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ประเทศจีนจึงเป็นหมุดหมายสำคัญให้คนไทยศึกษาความสำเร็จและนำมาปรับใช้กับธุรกิจไทยให้ทันโลก ไม่ตกยุค ไม่ถูก disrupt

ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจึงจัดทำโครงการ Krungsri Business Trip ภายใต้บริการ Krungsri Business Empowerment ที่มุ่งให้ข้อมูล ความรู้ และเครือข่ายธุรกิจ โดยนำผู้ประกอบการไทย บินลัดฟ้าไปดู 8 บริษัทชั้นนำในนครเซี่ยงไฮ้ เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อศึกษาองค์ความรู้และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้าน Cloud Computing & Big Data Application, Block Chains, IoT, Smart Wearable, AI, Driverless Technology

นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาการเก็บข้อมูลที่องค์กรจำเป็นต้องปรับโครงสร้างเพื่อให้สามารถรองรับการบริหารจัดการ Big Data สำหรับ E-Commerce ตลอดจนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในสถานที่จริง ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากยิ่ง

สำหรับผู้เข้าร่วมทริป Krungsri Business Trip คือกลุ่มลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการ Krungsri Leadership Academy (KSLA) และ Krungsri Leadership Academy Boot Camp (Mini KSLA Boot Camp) ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ และ/หรือทายาททางธุรกิจ ซึ่งการที่ลูกค้ากลุ่มนี้เข้าร่วมทริปนั้นมีนัยสำคัญอย่างยิ่งคือ หวังให้นักธุรกิจไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างแข็งแรงในยุคที่ดิจิทัลและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการดำเนินธุรกิจในโลกอนาคต

ไฮไลต์ในแต่ละเทคโนโลยีของทริป Krungsri Business Trip

Big Data ผู้เข้าร่วมทริปจะได้ศึกษากรณีความสำเร็จจากบริษัท Shanghai Data Exchange Corp และ Shanghai Cloud Data Co., Ltd. พาไปดูการเก็บข้อมูลแขนงต่างๆ ทั้งข้อมูลของพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต การเดินทาง กล้อง CCTV และระบบเซ็นเซอร์จากอุปกรณ์ IoT มาทำการวิเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกในการประเมินและเรียนรู้พฤติกรรมของผู้คนในมิติต่างๆ เช่น พฤติกรรมการเดินทาง การเลือกร้านอาหาร การซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการลงทุนและการมองหาโอกาสทางธุรกิจ

นอกจากนี้ยังมีบริษัท Transwarp Technology (Shanghai) Co., Ltd. ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม Hadoop สำหรับการจัดการ Big Data รายแรกของประเทศจีน ทำวิจัยและพัฒนาซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มข้อมูลขนาดใหญ่ในประเทศจีน นำเสนอแพลตฟอร์มข้อมูล Spark และ Hadoop สำหรับองค์กร ในการสื่อสารโทรคมนาคม บริการทางการเงิน และภาครัฐ ท่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมทริปเห็นภาพการนำ Big Data ไปใช้ในภาพกว้างระดับนโยบายประเทศ

Smart City ที่บริษัท Industrial Internet Innovation Center (3IN) ตั้งอยู่ ณ เขตอุตสาหกรรมหลินกัง พื้นที่ที่รัฐบาลจีนกำหนดให้ทำการทดลอง Prototypes เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม และวางแผนพัฒนาให้เป็น Hi-Tech Cluster

3IN ยังเป็นหน่วยงานวิจัยของรัฐเทียบเคียงกับ NECTEC เป็นผู้สร้าง Platform เชื่อมโยงกับผู้ประกอบการกว่า 200 บริษัท เช่น Huawei, Tencent, Cisco ฯลฯ ตัวบริษัททำการกำหนดมาตรฐานของ IoT ของอุปกรณ์เครื่องจักรต่างๆ ที่ใช้ในโรงงาน เช่น รถยนต์ไร้คนขับ โรงงานไร้แรงงานคน เครื่องบินและเรือที่ไร้คนขับ ท่าเรือที่ไม่มีคนงาน และการเกษตรกรรมที่ไม่ต้องใช่แรงงานคน เป็นต้น ถือเป็นประสบการณ์พิเศษที่ผู้เช้าร่วมทริปจะได้เจอและเปิดโลกทัศน์

AI, Robot หรือ chat bot ถือเป็นโซลูชั่นที่บริษัทจีนเริ่มนำมาใช้ทำงานแทนคน ตอบคำถามลูกค้าแทนเจ้าหน้าที่ตัวจริงแล้ว ผู้เข้าร่วมทริปจะได้เยี่ยมชมบริษัท Xiao-I Co., Ltd.” ผู้นำการพัฒนาและที่ปรึกษาด้าน AI Solutions ให้กับองค์กรธุรกิจต่างๆ รวมถึง Robot สำหรับการให้บริการลูกค้า Chatbot สำหรับ Customer Services หุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่ตอบคำถามและให้บริการลูกค้า หุ่นยนต์ดูแลผู้ป่วย หุ่นยนต์บริการในโรงแรมครบวงจร ตลอดจนหุ่นยนต์ผู้พิพากษาและแพทย์

นอกจากนี้ยังมีบริษัท Deep Blue Technology (Shanghai) Co., Ltd. ผู้พัฒนา AI Solutionsให้กับหลากหลายธุรกิจโดยใช้เทคโนโลยี Computer Vision, Autonomous Driving, Biological Intelligence และ Semantic Intelligence ผลงานของบริษัทเช่น รถบัสไร้คนขับ หุ่นยนต์ให้บริการลูกค้า หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย หุ่นยนต์ส่งของ หุ่นยนต์ดับเพลิง ตู้ขายสินค้าอัจฉริยะ ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเทคโนโลยีที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงรูปแบบของธุรกิจและพฤติกรรมการบริโภคสินค้าและบริการ

พาดูความยิ่งใหญ่ Starbucks Reserve Roastery และ HEMA Supermarket ของแจ๊ค หม่า

ถือเป็นอีกไฮไลต์สำคัญของทริป เพราะผู้เข้าร่วมจะได้เห็น เพราะ Starbucks Reserve Roastery ที่สาขาใหญ่กว่าทั่วไป 300 เท่า และมีบาร์กาแฟยาวที่สุดในโลก พร้อมด้วยการเสริมประสบการณ์ลูกค้าด้วย AR ดูกระบวนการผลิตกาแฟแบบเรียลไทม์

รวมถึงเยี่ยมชม HEMA Supermarket รวมประสบการณ์การซื้อขายแบบออนไลน์และออฟไลน์ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ในรูปแบบ "New Retail" เชื่อมต่อข้อมูลลูกค้าผ่านแอพพลิเคชั่น Hema เชื่อมต่อกับบัญชีลูกค้า Taobao หรือ Alipay เพื่อชำระค่าสินค้า ให้ลูกค้าสั่งของจากออนไลน์และมารับที่หน้าร้านได้ทันทีในเวลาไม่เกิน 30 นาที

การเดินทางในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่มากกว่าการเยี่ยมชมแต่คือการได้เห็นการทำงานจริงของบริษัทชั้นนำของประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของโลก เพื่อให้เจ้าของธุรกิจสามารถนำความรู้ในช่วงเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่ยุค Digital and Innovation และยังเป็นโอกาสสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ แลกเปลี่ยนความรู้เพื่อต่อยอดธุรกิจของตัวเองในอนาคต

ทั้งนี้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา พร้อมสนับสนุนธุรกิจไทยให้เติบโต ด้วยบริการ Krungsri Business Empowerment ที่มุ่งให้ข้อมูล ความรู้ และเครือข่ายธุรกิจ ผ่านกิจกรรมสัมมนาความรู้ (Business Talk & Business Forum) บริการจัดส่งบทวิเคราะห์และข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจผ่านทางอีเมล (Business Connect) กิจกรรมศึกษาดูงานต่างประเทศ สำรวจตลาด สร้างเครือข่าย (Business Journey) หลักสูตร Krungsri Leadership Academy (KSLA) และ Mini KSLA Boot Camp แพลตฟอร์มออนไลน์จับคู่ธุรกิจเพื่อ SME (Online Business Matching) และกิจกรรมจับคู่ธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสเติบโตให้ลูกค้าธุรกิจไทย สู่ตลาดต่างประเทศ (Krungsri – MUFG Business Matching Fair) เป็นต้น ซึ่งสามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://bit.ly/2EyGeX3

Blognone Jobs Premium