ไมโครซอฟท์กับภารกิจนำปัญญาประดิษฐ์ช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจไทย

by advertorial
30 December 2019 - 04:14

ปัญญาประดิษฐ์หรือ Artificial Intelligence น่าจะเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในแวดวงธุรกิจมากเป็นอันดับต้น ๆ ในช่วงนี้ จากข่าวความก้าวหน้าในงานวิจัยต่าง ๆ ที่น่าทึ่งซึ่งหลายคนเห็นข่าวแล้วจะพบว่าเป็นเทคโนโลยีมีศักยภาพที่จะเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนโฉมธุรกิจได้อย่างมาก

ไมโครซอฟท์ประเทศไทยได้จัดงาน Microsoft Envision Summit 2019 งานสัมมนาใหญ่ประจำปี เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ด้านปัญญาประดิษฐ์ของไมโครซอฟท์ต่อเนื่องอีกปี รวมถึงแสดงนวัตกรรมจากพาร์ทเนอร์ ที่มีความสามารถนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเสริมศักยภาพให้กับองค์กรธุรกิจ

ปีที่แล้วไมโครซอฟท์ประเทศไทยจัดงานสัมมนาประจำปีในชื่อ Future Now โดยมีแท็กไลน์คือ AI for Thais ด้วยเหตุผลว่าปัญญาประดิษฐ์เป็นเทคโนโลยีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และปีนี้เมื่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เริ่มแพร่หลายและพร้อมใช้งานจริงมากขึ้น แท็กไลน์ของงาน Microsoft Envision Summit 2019 เลยเป็น AI is a Game Changer ซึ่งคุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดของไมโครซอฟท์ประเทศไทยระบุว่า ปัญญาประดิษฐ์ก็เหมือนกับไฟฟ้าหรืออินเทอร์เน็ตสมัยแรก ๆ ที่ไม่ค่อยมีคนใช้งานมากนัก แต่ทุกวันนี้ไม่มีใครหรือธุรกิจไหนที่หลีกหนีสองสิ่งนี้พ้น

ไมโครซอฟท์ระบุด้วยว่าได้ร่วมมือกับ IDC ในการสำรวจการใช้งาน AI ในองค์กรในประเทศไทย 100 บริษัท ปรากฎว่ามากกว่า 50% มีการนำ AI ไปใช้งานบ้างแล้ว ครึ่งหนึ่งเป็นการทดลอง (pilot) อีกครึ่งหนึ่งนำมาใช้ในธุรกิจหลัก

ขณะที่ในแง่ของบทบาทของ AI ในการพลิกเกมนั้น ไมโครซอฟท์มองว่ามีอยู่ 4 ด้านหลัก ๆ

  • Engage เปลี่ยนวิธีในการมีปฏิสัมพันธ์กับทั้งลูกค้า เช่น นำดาต้ามาเรียนรู้พฤติกรรมลูกค้าและหากลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ, คาดการณ์ความต้องการลูกค้า
  • Innovate สร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการ สำหรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ
  • Work เปลี่ยนรูปแบบและกระบวนการทำงานในองค์กร ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความยุ่งยากซับซ้อนและอุปสรรคต่าง ๆ
  • Solve ช่วยและแก้ปัญหาในเชิงสังคม

วิธีการของไมโครซอฟท์ในการช่วยเหลือองค์กรทั้ง 4 ด้านมีทั้งการนำเสนอโซลูชันของบริษัทเอง ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์ม AI บน Azure หรือโซลูชัน Microsoft Teams และให้บริการกับองค์กรธุรกิจผ่านทางพาร์ทเนอร์และ System Integrator เป็นหลัก

หนึ่งในพาร์ทเนอร์สำคัญของไมโครซอฟท์คือ Sertis สตาร์ทอัพด้าน Data Science และ AI ในองค์กร โดยเคสตัวอย่างภายในงานคือกรณีของ CPF ที่นำ AI มาช่วยในฟาร์มเลี้ยงไก่และของ PTT ExpresSo สำหรับทำแพลตฟอร์มไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์

กรณีของ CPF คือโปรเจ็ค CPF AI FarmLab Powered by Sertis ที่ทำ AI เข้ามาช่วยดูแลไก่ในโรงเลี้ยง จุดประสงค์หลักก็เพื่อช่วยมนุษย์ดูแลความปลอดภัยทางชีวภาพหรือการป้องกันโรค 3 รูปแบบ

  • Monitoring ช่วยมนุษย์ดูกล้องวงจรปิดภายในโรงเลี้ยง ทั้งในแง่ของความปลอดภัยภายในโรงเลี้ยงและป้องกันการละเมิดกฎของพนักงานตลอด 24 ชั่วโมง
  • Violation Detection and Notification เมื่อพบความผิดปกติจากกล้องวิดีโอวงจรปิด AI จะแจ้งเตือนไปยังผู้เกี่ยวข้องทันที
  • Analysis รวบรวมสถิติปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้น และช่วยประมวลผลเพื่อนำไปพัฒนากระบวนการทำงานหรือแก้ไขปัญหาต่อไป

ขณะที่ความร่วมมือกับ ปตท. เป็นความร่วมมือในแพลตฟอร์มจัดการพลังงาน Smart Energy Platform by ExpresSo x Sertis ที่จะนำ AI มาช่วยพัฒนาระบบจัดการข้อมูลพลังงาน ประเมินทิศทางการใช้ไฟฟ้าบนกริดในอนาคต คาดการณ์การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือก รวมถึงนำบล็อคเชนมาเป็นพื้นฐานของระบบแลกเปลี่ยนและขายพลังงานไฟฟ้าที่เหลือใช้

นอกจากจะผลักดันการใช้งาน AI แล้วไมโครซอฟท์ยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดล ในการออกมาตรฐานทางจริยธรรมของ AI (AI Ethics) รวมถึงร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมในการพัฒนาหลักสูตรด้านดิจิทัล และยกระดับงานวิจัยของไทย เริ่มจาก 25 มหาวิทยาลัยชั้นนำ

กรณึศึกษาที่ยกมาแสดงให้เห็นว่ายุคของการใช้ AI ในภาคธุรกิจได้มาถึงแล้ว ธุรกิจส่วนมากสามารถนำ AI เข้ามาเสริมธุรกิจได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ไมโครซอฟท์ก็ยังคงมองว่า AI ไม่ได้เข้ามาแทนที่มนุษย์ได้อย่างที่หลายคนกลัว เพราะมนุษย์ยังคงสามารถทำหลาย ๆ สิ่งที่ AI ทำไม่ได้ AI อาจเข้ามาแค่ทดแทนในบางส่วน บางงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ หรืองานที่มนุษย์ทำแล้วมีโอกาสผิดพลาดมากกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นไมโครซอฟท์ก็ยังคงมองว่าแรงงานเองก็ต้องพัฒนาทักษะอื่นเพิ่มเติมขึ้นด้วยตามปกติอยู่แล้ว โดยเฉพาะทักษะด้านดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์โลกในอนาคต

Blognone Jobs Premium