วันนี้ Google ได้ตีพิมพ์งานวิจัยล่าสุด ที่อ้างว่าสามารถสร้าง AI ที่ทำนายปริมาณฝนได้อย่างแม่นยำมากสุดถึง 6 ชั่วโมงล่วงหน้า ในระดับความละเอียด 1 กิโลเมตร โดยใช้เวลาประมวลผลเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น
หากงานวิจัยนี้ถูกต้อง แปลว่า Google ได้สร้างเทคนิคการพยากรณ์อากาศแบบใหม่ ที่ทำงานเร็วกว่าเทคนิคที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันอย่างมหาศาล เพราะวิธีที่ดีที่สุดที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ 2 วิธี ที่ชื่อ optical flow (OF) และ simulation forecasting ใช้ทั้งเวลา พลังงาน และ ข้อมูลในการประมวลผลมากกว่าวิธีของ Google หลายเท่า โดยกินเวลานานถึง 6 ชั่วโมงด้วยกัน
Jason Hickey หนึ่งในนักวิจัยเรื่องนี้ของ Google บอกว่า
"ถ้าเราต้องใช้เวลา 6 ชั่วโมงในการพยากรณ์อากาศ แปลว่าวันหนึ่งเราจะรันโปรแกรมพยากรณ์ได้แค่ 3-4 รอบเท่านั้น และ เป็นการพยากรณ์โดยอิงจากข้อมูลเมื่อ 6 ชั่วโมงที่แล้ว ซึ่งจะไม่สามารถทำนายเหตุการณ์ ปัจจุบัน ได้จริงๆ"
นักวิจัยของ Google นั้นได้เทรน AI โมเดลใหม่นี้จากข้อมูลสภาพอากาศย้อนหลังที่เก็บไว้ตั้งแต่ปี 2017 จนถึง 2019 โดยหน่วยงาน National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) ของอเมริกา
โดยทีเด็ดที่สุดของเรื่องนี้คือ AI ของ Google ใช้เทคนิคแบบ data-driven ที่ทำนายจากข้อมูลจากภาพเรดาร์ล้วนๆ และไม่ได้ใช้การคำนวณทางฟิสิกส์เลย (physics-free) ซึ่งจะต่างกับวิธีที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันที่ต้องคำนวณโดยใช้สมการ และ แบบจำลองทางฟิสิกส์เข้าไปเกี่ยวด้วย แต่วิธีแบบ data-driven นี้กลับพยากรณ์ได้แม่นเทียบเท่า หรือ แม่นกว่าระบบพยากรณ์อากาศปัจจุบันที่ดีที่สุด 3 แบบที่ใช้กฎฟิสิกส์มาเกี่ยวด้วยเสียอีก
โดยงานวิจัยในสายพยากรณ์อากาศนี้ นอกจาก Google แล้วยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ เข้ามาวิจัยเรื่องนี้เหมือนกัน เช่น IBM และ Monsato โดยงานวิจัยแนวนี้จะมีความสำคัญกับชีวิตพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เราเริ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาโลกร้อนมากขึ้นทุกวัน
ป.ล. งานวิจัยนี้ของ Google ยังไม่ได้ระดับการ peer-review และยังไม่ได้เปิดให้ใช้จริง
ที่มา - The Verge และ Google AI Blog
ภาพข้อมูลย้อนหลัง และผลการทำนายล่วงหน้าของกูเกิล (แถวบน) เทียบกับกระบวนการทำนายด้วย Optical Flow (แถวล่าง)