ไมโครซอฟท์ประกาศแผนหยุดพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ของตัวภาษา Visual Basic หลังออก .NET 5 ในช่วงปลายปี 2020
Visual Basic ใน .NET 5 จะรองรับฟีเจอร์สำคัญๆ ของแพลตฟอร์ม .NET เช่น Windows Forms, WPF, Worker Service, ASP.NET Core Web API เพื่อให้ทัดเทียมกับฟีเจอร์ฝั่ง .NET Framework เดิม ทำให้โปรแกรมเดิมๆ บน .NET Framework สามารถย้ายมารันบน .NET 5 ได้ (อธิบายความแตกต่าง .NET Framework, .NET Core, .NET 5)
ไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่าตัวภาษา Visual Basic ค่อนข้างเสถียร ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ่อยอยู่แล้ว และการตัดสินใจไม่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ภาษา Visual Basic จะทำให้การเขียนโปรแกรมบน .NET Framework เดิมกับ .NET ตัวใหม่ทำงานข้ามกันได้ตลอดไป
ไมโครซอฟท์ระบุว่าจะยังซัพพอร์ต .NET Framework ตัวเดิมไปนานเท่ากับอายุของ Windows (เพราะผนวกมากับ OS อยู่แล้ว) แถมฟีเจอร์บางอย่างของ .NET Framework ไม่ได้ตามไปอยู่กับ .NET ตัวใหม่ด้วย (เช่น WebForms, WCF, Workflow) ทำให้การเขียน Visual Basic บน .NET Framework ยังจำเป็นอยู่สำหรับลูกค้าบางราย
ทิศทางของไมโครซอฟท์ค่อนข้างชัดเจนมานานแล้วว่า อนาคตของภาษาโปรแกรมในจักรวาลไมโครซอฟท์จะมุ่งไปที่ C# เป็นหลัก และตัวอย่างโค้ดของไมโครซอฟท์ก็มักเป็น C# เพียงอย่างเดียวในช่วงหลัง
ถึงแม้ตัวภาษา Visual Basic จะนิ่งแล้ว แต่ฟีเจอร์ของ IDE คือตัว Visual Studio จะยังพัฒนาต่อไปตามปกติ เช่น ฟีเจอร์ IntelliCode ที่ช่วยให้การเขียน VB ง่ายขึ้น