ชิป Snapdragon 865 ของ Qualcomm อาจเป็นชิปสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นอันดับต้นๆ ในสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ แต่สำหรับในรุ่น Snapdragon 865 นั้น ดีไซน์ที่ Qualcomm พยายามใส่เทคโนโลยี 5G เข้ามา ทำให้โทรศัพท์รุ่นที่ใช้ ร้อนขึ้น ใหญ่ขึ้น และมีราคาแพงขึ้นกว่าปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้มีรายงานจากเว็บไซต์ XDA-Developers ที่ถอดข้อมูลโทรศัพท์รุ่นใหม่ของ Google ที่จะเปิดตัวในปี 2020 จากฐานโค้ดแอนดรอยด์ออกมาได้สามรุ่น ในโค้ดเนมที่เป็นชื่อปลาเช่นเคย นั่นคือชื่อ “Sunfish”, “Redfin” และ “Bramble” ซึ่ง Sunfish จะใช้ชิป Snapdragon 730 (คาดว่าเป็น Pixel 4a) ส่วนอีกสองรุ่น จะใช้ชิป Snapdragon 765G (คาดว่าเป็น Pixel 5 และ 5 XL)
เว็บไซต์ Naver ของเกาหลี ก็รายงานเช่นกัน ว่า LG G9 ThinQ จะใช้ชิป Snapdragon 765G เหมือนกับ HMD ที่เปิดตัว Nokia 8.3 ที่ใช้ชิป Snapdragon 765G ไปเมื่อไม่นานมานี้
ชิป Snapdragon 865 นั้นแตกต่างจาก Snapdragon 855 ตรงที่ไม่มีโมเด็มในตัว ทำให้ต้องใช้ชิปโมเด็ม X55 ในการรับและแปลงสัญญาณ 4G และ 5G อีกทั้ง Qualcomm ยังบังคับให้โทรศัพท์ที่ใช้ชิป Snapdragon 865 ทุกเครื่อง ต้องพ่วงชิป X55 ไปด้วย ซึ่งจะใช้พื้นที่ภายในเครื่องมากขึ้น ดีไซน์ของเมนบอร์ดซับซ้อนขึ้น และมีราคาต้นทุนต่อเครื่องที่มากขึ้นด้วย แต่ตัวเลือกที่ผู้ผลิตมือถือสามารถใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ จะเป็นฟังก์ชั่นการรองรับ mmWave ที่ต้องมีการติด RF Module เพิ่มเติมรอบเครื่อง ซึ่ง Galaxy S20 รุ่นธรรมดาเลือกที่จะไม่ใส่ฟังก์ชั่นนี้
เทรนด์ของสมาร์ทสมาร์ทโฟนในปีนี้ ยังเป็นเทรนด์ของสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอใหญ่ขึ้น และรีเฟรชเรตสูงขึ้น ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ในปี 2020 กินพลังงานมากขึ้นกว่าเดิม ผู้ผลิตจึงต้องใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และทำให้ราคาต้นทุนพุ่งขึ้นไปอีก
ขณะที่ชิป Snapdragon 765G ถึงแม้จะช้ากว่า Snapdragon 865 แต่ก็ไม่มากนัก เพราะเป็นชิป 7nm ทั้งคู่ แต่ 865 จะใช้ซีพียู Cortex-A77 สี่แกน และ Cortex-A55 อีกสี่แกน ที่ความเร็วสูงสุด 2.84GHz ในขณะที่ 765G จะใช้ซีพียูCortex-A76 หกแกน และ Cortex-A55 สองแกน ที่ความเร็ว 2.4GHz ซึ่งถ้าใช้ซอฟท์แวร์เพียวแอนดรอยด์ของ Google ที่ปรับแต่งมาอย่างดี อาจจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง บนสมาร์ทโฟนตระกูล Pixel เลยก็ได้
คาดการณ์ว่า Google จะเปิดตัว Pixel 4a ช่วงกลางปีนี้ และ Pixel 5 กับ 5 XL ในช่วงปลายปี ส่วน LG G9 ThinQ อาจเปิดตัวในครึ่งปีแรกของปีนี้ แต่เนื่องจากฐานการผลิตในประเทศจีนได้รับผลกระทบจาก COVID-19 จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ คงต้องติดตามข่าวกันต่อไป
ที่มา - Ars Technica